คลังสรุปจัดตั้ง JV AMC ภายในเดือนนี้ เดินหน้าบริหารหนี้เสีย

08 พ.ค. 2567 | 07:56 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ค. 2567 | 07:56 น.

คลังเผยนายกฯ กำชับเดินหน้าจัดตั้ง JV AMC เชื่อชัดเชนภายในเดือนนี้ เดินหน้าร่วมทุน BAM บริหารหนี้เสียรายเล็ก-กลาง มูลหนี้ไม่เกิน 20 ล้านบาท

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (JV AMC) ที่ดำเนินการโดยธนาคารออมสิน ว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ JV AMC ดังกล่าว สามารถเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยผ่านการรับซื้อหนี้เสียเข้ามาบริหารจัดการ หรือช่วยในการตัดลดมูลหนี้ลง เชื่อว่า ภายในสิ้นเดือนนี้ จะมีความชัดเจนที่เป็นรูปธรรมในเรื่องดังกล่าว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ ในส่วนของพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมดำเนินการจัดตั้ง JV AMC ดังกล่าว คือ บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) หรือ BAM ส่วนการถือหุ้นของแต่ละฝั่งจะเป็นเท่าไหร่นั้น ขณะนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการหารือในรายละเอียด เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการเพื่ออนุมัติอีกครั้ง

“เราเข้าใจว่า เรื่องนี้ ดีเลย์มาระยะหนึ่งแล้ว เพราะจำเป็นต้องพูดคุยในรายละเอียด เนื่องจากยังมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่ขณะนี้มีความชัดเจนในความเห็นที่ตรงกันแล้ว”

ก่อนหน้านี้ ธนาคารออมสิน คาดว่า จะสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจร่วมกันได้ราวไตรมาสที่หนึ่งของปีนี้ แต่เนื่องจาก ต้องรอใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้การเริ่มธุรกิจดังกล่าวล่าช้าออกไประยะหนึ่ง และยังไม่ลงตัวเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับการร่วมทุน

ทั้งนี้ ปัจจุบันธปท.อนุญาตให้เฉพาะธนาคารพาณิชย์สามารถจัดตั้ง JV AMC เพื่อมาบริหารสินทรัพย์ได้ แต่ยังไม่อนุญาตการประกอบธุรกิจดังกล่าวแก่แบงก์ ดังนั้น กระบวนการจัดตั้งหรือร่วมทุนกับ JV AMC ดังกล่าว จึงต้องรอให้ธปท.พิจารณาอนุมัติและออกประกาศให้ธนาคารสามารถดำเนินการได้

สำหรับวัตถุประสงค์การร่วมทุนใน JV AMC ดังกล่าวนั้น เพื่อรับซื้อหนี้เสียของธนาคารและแบงก์รัฐแห่งอื่น ซึ่งจะช่วยรองรับการแก้ไขปัญหาหนี้เสียและช่วยเหลือลูกหนี้ให้สามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้ง่ายขึ้น โดยหนี้เสียที่จะรับซื้อนั้น จะเป็นหนี้เสียสำหรับรายเล็กถึงรายกลางมูลหนี้ไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อราย ในส่วนหนี้เสียของธนาคารที่จะโอนไปยัง JV AMC นั้น คาดว่า จะอยู่ที่หลักหมื่นล้านบาท