นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า รัฐวิสาหกิจที่ สคร. กำกับดูแลโดยตรงและมีการเบิกจ่ายงบลงทุน มีจำนวน 43 แห่ง โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีงบประมาณ (รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ) และรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีปฏิทิน (รัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน) โดยในปี 2567 รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายงบลงทุนจนถึงเดือนพฤษภาคม 2567 จำนวน 131,584 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 125 ของแผนการเบิกจ่าย
ทั้งนี้ ประกอบด้วยการเบิกจ่ายงบลงทุน ได้แก่
สำหรับรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และการประปานครหลวง
ส่วนรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
“ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ร้อยละ 51 ของกรอบงบลงทุนทั้งปี แบ่งเป็นผลการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 8 เดือน คิดเป็นร้อยละ 63 ของกรอบงบลงทุนทั้งปี และผลการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 5 เดือน คิดเป็นร้อยละ 42 ของกรอบงบลงทุนทั้งปี ซึ่งรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่ได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน ส่งผลให้ในภาพรวมมีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสูงกว่าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ สคร. จะกำกับติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การลงทุนของรัฐวิสาหกิจเป็นไปตามเป้าหมายและเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป
นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญสามารถเบิกจ่ายได้สูงกว่าแผน อาทิ