วันนี้ (7 กันยายน 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวพร้อมทั้งรัฐมนตรีทั้งหมดภายใต้ “ครม.แพทองธาร” หลังจากประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำรัสต่อนายกฯ และคณะรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ พระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า ขอให้พรด้วยความยินดี ให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ไปแล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน
ทั้งนี้นับเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจสูงสุดของนายกฯ และคณะรัฐมนตรี โดยนายกฯและคณะรัฐมนตรี พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และพร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศอย่างเต็มที่ และทำงานแข่งกับเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
"เราคือตัวแทนของประชาชน ที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากทั่วพื้นที่ทั่วประเทศ เรามาจากหลากหลายพรรคการเมืองจากหลาย ๆ และจะใช้ความหลากหลายนี้ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และใช้ความหลากหลายให้เป็นจุดแข็งให้รู้ปัญหาที่แท้จริงของประชาชน และสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และทันเวลา" นายกฯ ยืนยัน
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มั่นใจว่าจะประสานพลังของทุก ๆ คนให้มีพลังแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ และจะทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยทุกคน โดยโอกาสคือสิ่งที่เราสามารถสร้างขึ้นมาๆได้ ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะทำสิ่งนี้ให้เข้าถึงคนไทยอย่างเท่าเทียม
"วันนี้นายกฯ ครม. และข้าราชการทุกภาคส่วน พร้อมจะทำงานอย่างแน่วแน่ มั่นคง เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน และวันนี้พร้อมจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าจะทำงานกันเป็นทีม และสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกับประชาชนทุกคน โดยไม่เริ่มพรุ่งนี้ แต่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้" นายกฯ ระบุ
ส่วนการประชุมครม.นัดแรก ก็ได้แจ้งให้รัฐมนตรีทุกคนทราบให้เตรียมตัวตอบคำถามการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในประเด็นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งช่วยกันสื่อสารนโยบายแต่ละรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ เพื่อให้ข้าราชการและประชาชนเข้าใจนโยบายของรัฐบาลอย่างชัดเจนมากขึ้น
โดยส่วนใหญ่นโยบายที่จะแถลงจะเป็นนโยบายที่ทำต่อเนื่องจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน หลังจากรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองแต่ละพรรค และได้ปรับแก้แล้ว เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ รวมทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
"ทุกวันนี้ปัญหาของประเทศเป็นปัญหาที่เรื้อรังและท้าทาย โดยจะนำปัญหาต่าง ๆ มาแก้ไขอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งมีนโยบายทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว"
สำหรับนโยบายเร่งด่วน รัฐบาลจะเร่งการปรับโครงสร้างหนี้ ช่วยเหลือเอสเอ็มอี กระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ส่วนระยะกลางและยาว จะต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม เสริมสร้างการสร้างสรรค์ และซอฟต์เพาวเวอร์ โครงสร้างพื้นฐานทางสังคมและคมนาคม การเป็นศูนย์กลางทางการบิน ระบบสาธารณูปโภค และการพัฒนาคน
ส่วนในรายละเอียดอื่น ๆ ก็ขอให้ติดตามการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 12-13 กันยายน 2567 นี้ต่อไป
นายกฯ กล่าวว่า ยังขอให้รัฐมนตรีทุกคนดำเนินงานต่อเนื่องจากอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถือเป็นสิ่งที่เน้นย้ำมาตลอด ที่สำคัญคือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้ากระตุ้นการท่องเที่ยวได้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบของประเทศไทย ขณะที่การดูแลสินค้าเกษตรก็ยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลยังให้ความสำคัญต่อไป
รวมทั้งเน้นย้ำการแก้ปัญหาน้ำท่วม เพราะครม.เห็นตรงกันว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี และกระทบต่อการใช้ชีวิตประชาชน จึงได้ขอให้รัฐมนตรีแก้ปัญหาได้อย่างเข้มข้นและจริงจัง อีกทั้งยังขอให้กระทรวงต่าง ๆ ดำเนินกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ในการขับเคลื่อน นโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเห็นได้ทันทีในเดือนกันยายน 2567 หรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องของไทม์ไลน์ ขอให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงในรายละเอียด แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นแน่นอนและทันที เพราะเป็นข้อแรกที่รัฐบาลเน้นย้ำและผลักดันออกมา