ทุนการศึกษาซีพี สร้างคนรุ่นใหม่เก่งและดี ทำประโยชน์ต่อสังคม-ประเทศชาติ

24 ตุลาคม 2567 - เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จัดพิธีมอบทุนการศึกษาประจำปี 2567 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 45 ถือเป็นทุนการศึกษาภาคเอกชนที่ยาวนานที่สุดในประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นในการ “สร้างคนรุ่นใหม่ที่เก่งและดี” ผ่านการสนับสนุนและมอบโอกาสให้นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศได้ศึกษาเล่าเรียนจนถึงระดับปริญญาตรี โดยทุนการศึกษาซีพีมอบโอกาสมาแล้วรวมกว่า 6,612 ทุน เป็นมูลค่าเกือบ 190 ล้านบาท

ภายในพิธีปีนี้ มีนิสิตนักศึกษาใหม่ที่ได้รับทุนรวม 112 คน โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรองประธานกรรมการบริหารทุนการศึกษาเครือฯ เป็นประธานในการมอบเกียรติบัตรแก่ผู้รับทุน พร้อมด้วย นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือฯ ที่ร่วมให้คำแนะนำและแรงบันดาลใจแก่ผู้รับทุน ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ และการสร้างแรงบันดาลใจ ณ สถาบันผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์ จังหวัดนครราชสีมา

นพ.ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์ รองประธานกรรมการบริหารทุนการศึกษาเครือฯ กล่าวถึงความพิเศษของทุนซีพีว่า “ทุนการศึกษาซีพีเป็นมากกว่าทุนการศึกษา เพราะเป็นทุนที่มอบโอกาสอย่างแท้จริง โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ พร้อมสนับสนุนให้เยาวชนได้รับทั้งประสบการณ์ กิจกรรมสร้างสรรค์ และการฝึกทักษะที่ดี” ทุนซีพีเน้นการสร้างพฤติกรรมที่ดี (Good Conduct) ผ่านการเสริมสร้าง 3 สิ่งสำคัญ คือ กิจกรรม (Activity), การลงมือทำ (Action) และการทำความดี (Good Deeds) เพื่อให้เยาวชนที่ได้รับทุนเติบโตเป็นคนดีและมีความสามารถพร้อมทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีและแนะนำแนวทางแก่ผู้รับทุนว่า การศึกษาที่ดีไม่เพียงแต่สร้างคนเก่ง แต่ต้องสร้างคนดีที่พร้อมตอบแทน และสร้างประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ ผู้รับทุนควรมีกรอบความคิดเรื่อง "ความกตัญญู" ซึ่งในที่นี้หมายถึง ความรักแท้และความเมตตา อันเป็นรากฐานสำคัญที่เครือซีพียึดมั่นเสมอตลอดการดำเนินธุรกิจ

“ความกตัญญู คือ ความรักแท้ และความเมตตา เป็นความรู้สึกได้ถึงความทุกข์ของผู้อื่น หรือความรู้สึกที่อยากให้ผู้อื่นมีความสุข ทุนการศึกษาเครือซีพีจึงถือเป็นทุนที่เกิดจากรากฐานดังกล่าว เพราะความกตัญญูเป็นพื้นฐานของปัญญา ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิต และเป็นสิ่งที่ผู้รับทุนควรนำไปปรับใช้” นายศุภชัย กล่าว

โอกาสนี้ นายศุภชัย ยังเสนอหลักการ 3 วงกลมให้แก่ผู้ได้รับทุนนำไปเป็นข้อคิดสร้างสรรค์สังคมที่ดี ซึ่งประกอบไปด้วย วงสังคม (Social) ที่มี “ความรักและความเห็นอกเห็นใจ” (Love & Compassion) เป็นรากฐานสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิบัติที่ถูกต้อง สองวงเศรษฐกิจ (Economic) ที่ยึดโยงด้วยพลังของ “ความมั่นคง” โดยเฉพาะสถานะทางการเงินเพื่อเป็นกำลังทำความดีได้อย่างต่อเนื่อง เป็นการบริหารความเสี่ยงเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว และวงกลมที่สาม คือ วงสิ่งแวดล้อม (Environment) ที่มีหัวใจสำคัญ คือ การสร้างสรรค์นวัตกรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตและปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยมีพลังของ “ความฝัน” เป็นตัวขับเคลื่อน โดยหลักการนี้ยังสามารถตอบสนองความท้าทายโลกทั้งสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

นางสาววิลาสินี แผ่นทอง นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ หนึ่งในผู้รับทุนการศึกษาเครือเจริญโภคภัณฑ์ปี 2567 กล่าวถึงความรู้สึกว่า “ทุนการศึกษาซีพีเป็นโอกาสที่สำคัญและเป็นจุดเปลี่ยนชีวิต เพราะไม่ใช่เพียงแค่ได้รับเงินสนับสนุน แต่ยังได้รับการพัฒนาทักษะชีวิต ทักษะดิจิทัล และประสบการณ์ที่มีค่า ซึ่งช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเรียนและมีโอกาสที่เท่าเทียม” เธอย้ำว่าจะขยันศึกษาเพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปสร้างประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ

นายเนรมิต ปะณะมัง ในฐานะศิษย์เก่าที่ได้รับทุนซีพี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งวิศวกรไฟฟ้า กล่าวขอบคุณเครือซีพีที่มอบโอกาสนี้ว่า “ทุนซีพีไม่เพียงแค่สนับสนุนการเรียน แต่ยังพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำและการทำงานจริง ถือเป็นใบเบิกทางสำคัญสู่โลกการทำงาน”

ตลอด 45 ปีที่ผ่านมา ทุนการศึกษาเครือซีพีได้พัฒนาเยาวชนของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้เยาวชนทุกคนได้เข้าถึงการศึกษาอย่างมีคุณภาพ โครงการนี้ริเริ่มโดย นายจรัญ เจียรวนนท์ ประธานกิตติมศักดิ์เครือฯ และนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 และขยายประเภททุนเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2562 โดย นายศุภชัย เจียรวนนท์ ด้วยการเพิ่ม “ทุนนวัตกร” เพื่อสนับสนุนการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษา สอดรับกับความต้องการนวัตกรรมใหม่ ๆ ในสังคมไทย

ปัจจุบัน ทุนการศึกษาซีพีได้มอบให้กับนักศึกษาทั้งในระดับปริญญาตรี มัธยมปลาย ปวช. และ ปวส. รวมทั้งสิ้น 6,612 ทุน และยังมอบทุนต่อเนื่องให้กับผู้รับทุนเดิมที่มีผลการเรียนดีจนถึงระดับที่สูงขึ้น รวมถึงการฝึกอบรมเพิ่มเติมในด้านทักษะชีวิต การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ AI พร้อมทั้งโอกาสฝึกงานกับบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่โลกการทำงานและทำประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติอย่างยั่งยืน

เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการสนับสนุนการศึกษาของเยาวชนไทย ด้วยความเชื่อมั่นว่าการศึกษาเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทย