YDM ดึง IGAWORKS สตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นเกาหลีใต้ เขย่าตลาด MarTech ไทย เปิดตัว “DFinery” แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า (CDP) ชู 4 จุดแข็ง รวบรวม Data ขนาดใหญ่ทั้ง online และ offline พร้อม Dashboard แบบเรียลไทม์ ใช้งานทันที ปรับรายงานได้ตามต้องการ มีระบบการแบ่งเซ็กเมนต์ผู้บริโภคโดย AI และสามารถทำ Marketing Automation เชื่อมต่อข้อมูลกับช่องทางการสื่อสารการตลาดได้แบบเรียลไทม์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารการตลาดได้มากขึ้น 2 เท่า บนงบการตลาดเท่าเดิม พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ขานรับเทรนด์ตลาด 5.0
นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ตามโรดแมปของ YDM ในการมุ่งขยายระบบนิเวศการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตามที่ตั้งไว้ หนึ่งกลยุทธิ์ที่สำคัญคือการร่วมมือกับ IGAWORKS สตาร์ทอัพยูนิคอร์นเกาหลีใต้ เปิดตัว“DFinery” แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า หรือ Customer Data Platform (CDP) เทคโนโลยีด้านการตลาด หรือ MarTech เข้ามาให้บริการในประเทศไทยแล้ว
โดย YDM จะทำหน้าที่ให้คำแนะนำกับลูกค้าที่ต้องการนำเทคโนโลยี CDP มาประยุกต์ใช้กับการทำการตลาด รวมถึงนำเอาทีมกลยุทธ์ ทีมดาต้า และทีมครีเอทีฟ ลงมาผลักดันงานการตลาดให้เกิดการใช้งานจริง เพื่อสนับสนุนให้นักการตลาดและแบรนด์ในประเทศไทยได้ทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ นำมาซึ่งยอดขายที่วัดผลได้ เพื่อฟื้นตัวและคว้าโอกาสทางธุรกิจในยุคอาฟเตอร์โควิด และก้าวสู่การตลาด 5.0
ทั้งนี้ “DFinery” จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานสื่อสารการตลาด สร้างโอกาสขยายฐานลูกค้า โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านการสื่อสารทางการตลาดได้มากขึ้นถึง 2 เท่า บนงบประมาณการตลาดเท่าเดิม ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการสื่อสารการตลาดที่ไม่จำเป็นในยุคค่าโฆษณาพุ่งบนแพลตฟอร์มออนไลน์และโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงสร้างความสามารถในการตอบสนองที่รวดเร็ว ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคยุคดิจิทัลไลฟ์ โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์เจาะลึกถึงพฤติกรรมผู้บริโภค เข้าถึงความต้องการที่แท้จริงตั้งแต่ก่อนซื้อ
และยังสามารถวิเคราะห์แบ่งแยกพฤติกรรมผู้บริโภคในการบริโภคสื่อ เพื่อบริหารช่องทางการสื่อสารการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างสรรค์ข้อความโฆษณาที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในระดับเซ็กเม็นต์และในระดับรายบุคคล 1 ต่อ 1 ทำให้เกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง
นายณัฐพล จิตงามพงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายดาต้าและเทคโนโลยี บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด เผย จุดแข็งหลัก 4 ข้อ ของ DFinery ที่แตกต่างจาก Platform CDP ทั่วไป คือ
1. สามารถรวบรวม Data จากทุกๆ ช่องทาง รวมถึง Data จากงานโฆษณาออนไลน์ โดย DFinery จะดึงข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคจากทุกช่องทางที่ทางแบรนด์มี ไม่ว่าจะเป็นบนออนไลน์หรือออฟไลน์ เช่น จาก เว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, Mobile แอปพลิเคชัน, CRM, POS, ERP และสื่อโฆษณาออนไลน์ต่าง ๆ ผ่านทาง SDK, API หรือ ระบบ Ad Tracking ที่ทาง DFinery จัดเตรียมไว้ให้ โดยจะรวบรวมจัดเก็บข้อมูลทั้งหมด ไปไว้ในฐานข้อมูลขนาดใหญ่(Data Lake) โดยระบบสามารถเก็บข้อมูลเชิงลึกได้โดยละเอียด ไม่มีปัญหาในเรื่องของการสเกลขนาดของดาต้าเมื่อมีปริมาณมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น งาน CDP ของ Samsung หรือSK Telecom ที่ประเทศเกาหลี ที่มีจำนวน User เกินกว่า 100 ล้านคน
2. มี Dashboard สำเร็จรูปแบบเรียลไทม์ เนื่องด้วยในประเทศเกาหลี มีลูกค้าที่ใช้ระบบ CDP ของ DFinery มากกว่า 700 แบรนด์ DFinery จึงมีระบบ Dashboard มากมายที่ทำเสร็จพร้อมใช้ สามารถใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคหลากหลายรูปแบบได้ทันที อีกทั้งยังสามารถปรับรูปแบบของฐานข้อมูล Dashboard ได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ช่วยวิเคราะห์เชิงลึกถึงเส้นทางของผู้บริโภค หรือ Customer Journey และหา Insight ของผู้บริโภคในมุมต่าง ๆ ได้อย่างไม่จำกัด
3. การแบ่งเซ็กเมนต์ผู้บริโภคโดย AI สามารถเลือกดึงข้อมูลลูกค้าในรูปแบบรายบุคคล หรือแบ่งเป็นกลุ่มตามพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคจากฐานข้อมูลเชิงลึกในระบบ โดยมี AI ช่วยในการวิเคราะห์ สามารถช่วยหาโอกาสในการขายสินค้า รวมถึงการทำนาย (Prediction) ยอดขายที่จะเกิดขึ้น เพื่อช่วยให้ แบรนด์สามารถกำหนดทิศทางการตลาดที่ชัดเจนและใช้งบประมาณได้แม่นยำยิ่งขึ้น
4. สามารถทำ Marketing Automation ในรูปแบบต่าง ๆ แบบเรียลไทม์ จากกลุ่ม Segmentation รูปแบบต่าง ๆ ที่สร้างขึ้น ระบบ DFinery สามารถกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อใช้ในการทำการตลาดแบบอัตโนมัติได้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งโฆษณาผ่าน Facebook, Google, YouTube ในทันที การส่ง Line Message, SMS หรือ ส่ง E-mail แบบอัตโนมัติ
DFinery เป็น MarTech ที่ช่วยให้แบรนด์และนักการตลาดก้าวข้าม 3 อุปสรรคใหญ่ ๆ ของการทำการตลาดโดยใช้ดาต้าในยุคปัจจุบัน ได้แก่
1. ด้านบริหารจัดการข้อมูล ปัญหาความยุ่งยากซับซ้อนของการเก็บข้อมูลที่กระจัดกระจาย ไม่สามารถรวบรวมข้อมูล เพื่อนำออกมาใช้ได้จริง รวมทั้งไม่สามารถจัดการปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้พลาดโอกาสในการสร้างการเติบโตและเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจ
2. ด้านโซลูชัน CDP ในตลาดที่มีราคาสูงมาก ทำให้การใช้งาน CDP ปัจจุบันจำกัดอยู่แค่บริษัทระดับโลก หรือบริษัทในประเทศที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ และมีงบประมาณการตลาดพร้อมซัพพอร์ตเท่านั้น
3. ความซับซ้อนในการใช้งาน เนื่องจาก แพลตฟอร์ม CDP ทั่วไป จะใช้งานค่อนข้างยาก พนักงานในองค์กรขาดทักษะ ความรู้ความเข้าใจ รวมถึงความเชี่ยวชาญ ทำให้มองว่าแพลตฟอร์มใช้งานยุ่งยากซับซ้อนเกินไป ส่งผลให้ไม่เกิดการใช้งานจริงในเชิงธุรกิจ
“อย่างไรก็ดี DFinery นับเป็นแพลตฟอร์ม CDP ที่สามารถตอบโจทย์ช่วยแก้ 3 อุปสรรคที่นักการตลาด และแบรนด์ต้องเผชิญได้อย่างครอบคลุม ทั้งนี้ ยังพบอุปสรรคที่อยู่เหนือการควบคลุมของแพลตฟอร์ม CDP คืออุปสรรคข้อที่ 4 เรื่องของ ‘บุคลากร’ ที่ทางแบรนด์เองก็ควรจะมีทีมงานที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญสูง ทั้งนักวางกลยุทธ์ดาต้า นักวิเคราะห์ดาต้า นักวางกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงมีทีมครีเอทีฟที่เข้าใจในเรื่องการใช้เทคโนโลยี ซึ่งทาง YDM Thailand เองมีความพร้อมที่จะ Support ลูกค้าในทุก ๆ ด้านที่กล่าวมา”