ธุรกิจครอบครัวที่ก่อตั้งมายาวนานแม้อาจมีประวัติความสำเร็จมากมาย แต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้าของจะสามารถวางใจได้ เพราะการ disruption อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงภายในอุตสาหกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงแบบพลวัตภายในครอบครัวหรือธุรกิจเอง
มีการศึกษาที่ระบุว่าธุรกิจครอบครัวมักประสบกับการ disruption อยู่ 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทแรก internal disruption มักเกิดจากการที่ลูกๆ ไม่สนใจรับช่วงต่อธุรกิจที่พ่อหรือแม่เป็นคนริเริ่มไว้ ซึ่งอาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องการสืบทอดกิจการ หรือบางครั้งสมาชิกในครอบครัวขัดแย้งกันและต้องการแยกธุรกิจออกเป็นส่วนๆ เป็นต้น
และประเภทที่สอง external disruption เกิดขึ้นเมื่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมส่งผลกระทบต่อธุรกิจครอบครัว ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ครอบครัวอาจต้องขายธุรกิจทั้งหมดหรือบางส่วนออกไป จากนั้นต้องเข้าสู่กระบวนการวางแผนเพื่อเรียนรู้ที่จะหารายได้จากพอร์ตการลงทุนให้ใกล้เคียงกับรายได้เดิมจากธุรกิจครอบครัว หรือที่เรียกว่าการเปลี่ยนรูปแบบจากการบริหารธุรกิจมาเป็นการบริหารการลงทุนแทน
อย่างไรก็ตามไม่ว่าการ disruption ประเภทใดจะเป็นสาเหตุของการขายธุรกิจครอบครัว ก็ไม่จำเป็นต้องหมายถึงการสิ้นสุดของจิตวิญญาณการเป็นผู้ประกอบการของครอบครัวเสมอไป บทเรียนอันมีค่าที่คนรุ่นก่อตั้งได้เรียนรู้ยังคงสามารถส่งต่อได้อีกหลายวิธี ซึ่งคนรุ่นใหม่ไม่เพียงจะได้ชื่นชมความทุ่มเทในการก่อตั้งธุรกิจของครอบครัวเท่านั้น แต่ยังสามารถนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น ไปใช้กับการเป็นผู้ประกอบการของตนเองได้อีกด้วย ดังวิธีการต่อไปนี้
1. รักษามรดกในการเป็นผู้ประกอบการของครอบครัว บางครอบครัวก่อนขายธุรกิจเคยได้วางโครงสร้างเพื่อแบ่งปันข้อมูลและจัดการประชุมระหว่างสมาชิกเป็นประจำ แต่เมื่อธุรกิจหายไปครอบครัวกลับรู้สึกเหมือนเป็นการสูญเสียในแง่ของการพัฒนาความรู้และความเฉียบแหลมทางธุรกิจ จึงใช้วิธีจัดตารางกำหนดการประชุมครอบครัวตามระยะเป็นประจำ เพื่อพูดคุยเชิงลึกเกี่ยวกับทรัพย์สินที่มีความต้องการของตลาด (marketable securities) และการลงทุน
(อ่านต่อฉบับหน้า)
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,910 วันที่ 3 - 5 สิงหาคม พ.ศ. 2566