‘นายประมง’ บุกกทม. ปรับแผน สร้างแบรนด์สู้สินค้าก้อปปี้

06 ก.ค. 2567 | 11:08 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ค. 2567 | 11:48 น.

“นายประมง” อาหารทะเลแปรรูปแบรนด์ดัง บุกกทม. ปักหมุดโชว์รูมแห่งแรกที่ฟีนิกซ์ ย่านประตูน้ำ พร้อมเดินหน้าปรับกลยุทธ์ หวังสร้างแบรนด์เจาะลูกค้าคนไทย-ต่างชาติ หลังเผชิญวิกฤตใหญ่ ทั้งโควิด-สงครามอิสราเอล-สินค้าก้อปปี้จากกลุ่มจีนเทา ทำยอดขายหายกว่าครึ่ง

  แบรนด์สินค้าอาหารทะเลแปรรูป ที่เริ่มต้นผลิตภัณฑ์แรกจากปลาข้างเหลืองปรุงรสย่าง เมื่อ 18 ปีก่อน ภายใต้การคิดและพัฒนาขึ้นของหนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ “จตุพล เก็งวินิจกุล” ผู้ก่อตั้งบริษัท เจ เอ็น เอส อันดามัน จำกัด ในบทบาทของ “เทรดเดอร์” ก่อนประสบความสำเร็จอย่างสูงเมื่อมีโอกาสขยายตลาดส่งออกไปยังรัสเซีย ซึ่งมีดีมานด์สูง ด้วยระยะเวลาเพียง 6 เดือนเศษ สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 100 ล้านบาท

วันนี้ “จตุพล” เลือกที่จะต่อยอดธุรกิจแบรนด์ “นายประมง” ด้วยการเปิดโชว์รูมแห่งแรก ภายใต้ชื่อ “ร้านนายประมง” ณ “ฟีนิกซ์” (Phenix) ศูนย์กลางด้านอาหารครบวงจร แหล่งรวมร้านค้าส่งและร้านอาหารย่านประตูน้ำ ใจกลางกรุงเทพมหานคร

‘นายประมง’ บุกกทม. ปรับแผน สร้างแบรนด์สู้สินค้าก้อปปี้

“จตุพล” เล่าให้ “ฐานเศรษฐกิจ” ฟังว่า หลังประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ซึ่งดำเนินการมาเป็นระยะเวลากว่า 18 ปี โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก คือ ปลาข้างเหลืองปรุงรสย่าง, ปลาข้างเหลืองอบแห้ง และผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป อื่นๆ อาทิ ปลาหมึกย่าง, ปลาหมึกฝอย ขนมปลา ฯลฯ ออกวางจำหน่ายภายในซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงบิ๊กซี โลตัส และร้านสะดวกซื้ออย่าง “เซเว่น อีเลฟเว่น” และส่งออกจำหน่ายไปยังต่างประเทศ ด้วยจุดแข็งของแบรนด์ ที่สามารถเข้าถึงวัตถุดิบชั้นดี สนับสนุนชาวประมงที่สมุทรสาคร และมีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ถูกปากผู้บริโภค

“สินค้าเรือธงคือ ปลาข้างเหลืองอบแห้ง มีการปรับรสชาติให้ถูกปากลูกค้าคนไทยและต่างชาติ โดยปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากตลาดในไทย 40% และตลาดส่งออกกว่า 60% ตลาดหลักได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป”

สำหรับการบุกตลาดครั้งแรก ด้วยการเปิดร้านใจกลางเมือง ณ ศูนย์การค้าฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้าขายส่ง ร้านอาหารย่านประตูน้ำนั้น ถือเป็นการปรับกลยุทธ์รุกเข้าหาผู้บริโภทั้งคนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงผู้ที่สนใจรับสินค้าไปจำหน่ายในต่างประเทศมากขึ้น

‘นายประมง’ บุกกทม. ปรับแผน สร้างแบรนด์สู้สินค้าก้อปปี้

“จตุพล” เล่าว่า นายประมงเจอพายุลูกใหญ่หลายระลอก ระลอกแรก คือโควิดส่งผลให้มีการชะลอการส่งออก ระลอกที่ 2 คือ สงครามที่อิสราเอล ทำให้ลูกค้าในประเทศแถบนั้นหายไปส่งออกไม่ได้ และระลอกที่ 3 คือเรื่องของ สินค้าลอกเลียนแบบ ที่ขายตัดราคา จากคู่แข่งซึ่งเป็นกลุ่มทุนจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย ผ่านการขายสินค้าของฝากให้กรุ๊ปทัวร์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์นายประมง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมาก เป็นความท้าทายมากที่สุดที่ต้องเจอในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา

จากอุปสรรคดังกล่าวส่งผลให้ยอดขายในปีที่ผ่านมาลดลงเหลือเพียง 60 ล้านบาท จากเดิมที่มีอยู่ราว 140 ล้านบาท จากการจำหน่ายให้กับลูกค้าทัวร์จีนกว่า 2 หมื่นแพ็คต่อเดือน ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์และหันมาสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงมากขึ้น ให้ได้มาตรฐานทั้งตัวสินค้า แพ็กเกจ ช่องทางการจัดจำหน่าย พร้อมกับการวางกลยุทธ์การทำตลาดอย่างต่อเนื่อง

“แผนการลงทุนปีนี้ บริษัทจะขยายไลน์การผลิตสินค้าให้มากขึ้น นอกจากอาหารขบเคี้ยว เป็นอาหารทะเลแปรรูปอื่นๆ อาทิ น้ำพริกปลาป่น ฯลฯ รวมทั้งการแปรรูปวัตถุดิบจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว เช่น ก้างปลา หัวปลา ที่เคยเป็นมองว่าเป็น “Food Waste” จะถูกนำมาวิจัยและพัฒนา แปรรูปเป็นเป็นไลน์สินค้าใหม่เพื่อเพิ่มเข้าในพอร์ตสินค้าที่มีอยู่”

“จตุพล” บอกทิ้งท้ายว่า ตลอดระยะเวลากว่า 18 ปีที่ผ่านมาเป็นการทำธุรกิจทุกอย่างจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ต่อให้เจออุปสรรคที่เป็นดั่งพายุมากเท่าใด แบรนด์ก็จะยิ่งแข็งแกร่งและมีคุณค่ามากขึ้น จึงอยากแนะนำผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ต้องไม่หยุดนิ่ง พร้อมเรียนรู้ หาโอกาสใหม่ๆ ไปออกงานต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้ประสบการณ์และได้พบผู้ประกอบการใหม่ๆ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะขยายตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมกับการมุ่งสร้างแบรนด์สู่กลุ่มลูกค้า และผลักดันองค์กรเติบโตที่ดีในระยะยาว