"ภูเก็ต"ต้อนรับเรือสำราญใหญ่สุดในเอเชีย ลำแรกในรอบ3ปี

24 ต.ค. 2565 | 06:13 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ต.ค. 2565 | 13:21 น.

"ภูเก็ต"ต้อนรับเรือสำราญใหญ่ที่สุดในเอเชีย SPECTRUM OF THE SEA มีนักท่องเที่ยวจาก 55 ชาติกว่า 4,500 คน โดยนับเป็นเรือสำราญลำแรกที่มาเยือนภูเก็ตในรอบ 3 ปี หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19

วันนี้ (วันที่ 24 ตุลาคม 2565 ) จังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นำโดย นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่เดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตโดยเรือสำราญ SPECTRUM OF THE SEA  เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ จอดเทียบท่า ท่าเทียบเรือหาดป่าตอง 

 

เรือสำราญ SPECTRUM OF THE SEA

 

นางสาวนันทาศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท)สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า การเดินทางเข้ามาเทียบท่าของเรือ SPECTRUM OF THE SEA ถือเป็นเรือสำราญลำแรกที่เดินทางเข้ามาเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19  ซึ่งสามารถรับนักท่องเที่ยวได้สูงสุดถึง 4,900 คน มีความสูง 18 ชั้น 

 

\"ภูเก็ต\"ต้อนรับเรือสำราญใหญ่สุดในเอเชีย ลำแรกในรอบ3ปี

 

ภายในห้องพัก 2,137 ห้อง มีทั้งห้องอาหาร บาร์ สวยสนุก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และเอนเตอร์เทนเมนท์ครบวงจร เรือลำดังกล่าวมีผู้โดยสารกว่า 4,594 คน มีผู้โดยสารรวม 55 สัญชาติจากทั่วโลก 5 อันดับแรก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย และจะขึ้นมาท่องเที่ยวบนเกาะภูเก็ตแบบ One Day Trip กว่า 800 คน  
ส่งผลดีต่อจังหวัดภูเก็ต ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวเดินทางอย่างมาก 

เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นิยมการเดินทางด้วยเรือยอร์ช เรือสำราญ นั้น เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง ที่ผ่านมา ททท.ได้ดำเนินการส่งเสริมการเดินทาง ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาตลอด

 

\"ภูเก็ต\"ต้อนรับเรือสำราญใหญ่สุดในเอเชีย ลำแรกในรอบ3ปี \"ภูเก็ต\"ต้อนรับเรือสำราญใหญ่สุดในเอเชีย ลำแรกในรอบ3ปี

 

โดยสถิติการเดินทางทางเรือ ในปี 2562 มีเรือสำราญเดินทางเข้ามา จังหวัดภูเก็ต จำนวน 154 ลำ คนประจำเรือพร้อมผู้โดยสาร รวม 485,598 คน 

 
จังหวัดภูเก็ตมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทางเรือสำราญ โดยเฉพาะการให้บริการทางการท่องเที่ยว สปา แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และแหล่งช้อปปิง ซึ่งสามารถตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี และจะเป็นโอกาสสำคัญที่จะสร้างรายได้ให้จังหวัดภูเก็ตอีกทางหนึ่ง และต่อยอดไปสู่การเข้าเทียบท่าของเรือสำราญลำต่อไปในอนาคตอันใกล้