เปิดโรดแมปแผนลงทุนขยายสนามบินทั่วไทย 5.67 แสนล้าน

11 ก.ค. 2567 | 23:00 น.

เปิดโรดแมปแผนลงทุนขยายสนามบินทั่วไทย 5.67 แสนล้าน AOT ขยาย 6 สนามบินรับผู้โดยสาร 210 ล้านคน เร่งศึกษาผุด 2 สนามบินใหม่ใน 7 ปี ทย.สร้างสนามบินใหม่ 6 แห่ง ลงทุนกว่า 2.16 หมื่นล้าน บางกอกแอร์ ขยายสนามบินสมุย-ตราดรับไฟล์ตต่างประเทศ ด้าน UTA หวังเข้าพื้นที่พัฒนาอู่ตะเภาสิ้นปีนี้

การพื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ส่งผลต่อการขยายตัวของผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินต่างๆรวม 39 แห่งทั่วไทย มีอัตราฟื้นตัวต่อเนื่องหลังโควิด ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบาย IGNITE THAILAND ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและศูนย์กลางการบินในภูมิภาค ดังนั้นการขยายศักยภาพของสนามบิน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว จึงมีความสำคัญ

ส่งผลให้ในช่วง 5 -10 ปีนี้จะเกิดการขยายศักยภาพของสนามบินที่มีอยู่ให้รองรับผู้โดยสารและเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้น รวมถึงการสร้างสนามบินใหม่ ที่จะเกิดขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วไทย โดยเป็นการลงทุนของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT ซึ่งครองส่วนแบ่งกว่า 86.7% ของผู้ใช้บริการสนามบินทั้งหมดในไทย ด้วยเงินลงทุนกว่า 3.39 แสนล้านบาท 

ตามมาด้วยโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่เป็นโครงการ PPP ระหว่างรัฐ-UTA มูลค่าการลงทุน 2.04 แสนล้านบาท การสร้างสนามบินใหม่ 6 แห่ง ของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) 2.16 หมื่นล้านบาท และการขยาย 2 สนามบินของบางกอกแอร์เวย์ส มูลค่าการลงทุน 2.3 พันล้านบาท

แผนขยายสนามบินทั่วไทย

  • AOT ขยาย 6 สนามบินรับผู้โดยสาร 210 ล้านคน

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT หรือ ทอท.เปิดเผยถึงทิศทางการพัฒนาสนามบินของทอท.ว่า ในช่วง 5-10 ปีนี้ จะเพิ่มศักยภาพสนามบินทั้ง 6 แห่งของทอท. เพื่อรอรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 170 ล้านคนในปี 2572 และเพิ่มเป็น 210 ล้านคน ภายในปี 2575

กีรติ กิจมานะวัฒน์

รวมถึงสร้างสนามบินใหม่อีก 2 แห่ง เพื่อให้สอดรับนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค และยกระดับสนามบินสุวรรณภูมิให้ติดอันดับ 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 58 ของโลก

โดยทอท. มีแผนพัฒนา “สนามบินสุวรรณภูมิ” เต็มพื้นที่ เพื่อรองรับเที่ยวบินเพิ่มจาก 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และเตรียมสร้างโครงการส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ลงทุน 1.25 หมื่นล้านบาท เพิ่มพื้นที่ได้อีก 8.1 หมื่นตร.ม. รองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก 15 ล้านคน ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียด คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2571 

ทั้งมีแผนก่อสร้างโครงการส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันตก (West Expansion) อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 (SAT-2) อาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) และรันเวย์ 4 ลงทุน 1.2 แสนล้านบาทในปี 2568-2573

แผนแม่บทขยายสนามบินสุวรรณภูมิ

ส่วน “สนามบินดอนเมือง” จะพัฒนาเฟส 3 วงเงินลงทุน 3.6 หมื่นล้านบาท รับผู้โดยสารจาก 30 ล้านคน เป็น 40 ล้านคนต่อปี สร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ (อาคาร 3) รับผู้โดยสารได้ 18 ล้านคนต่อปี เปิดให้บริการปี 2571 และจะปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 และ 2 ให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ รองรับผู้โดยสาร 22 ล้านคนต่อปี

สนามบินดอนเมืองเฟส 3

ปัจจุบันอยู่ระหว่างออกแบบ คาดว่าจะก่อสร้างปี 2568 แล้วเสร็จปี 2573 และมีแผนจะปรับปรุงพื้นที่กว่า 2.1 หมื่นตร.ม. เพื่อก่อสร้างอาคารรับรองพิเศษ สำหรับเครื่องบินส่วนบุคคล (Private Jet Terminal)

สนามบินภูเก็ต” จะพัฒนาเฟส 2 วงเงิน 6.21 พันล้านบาท รองรับผู้โดยสารจาก 12.5 ล้านคน เป็น 18 ล้านคนต่อปี โดยจะก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มพื้นที่อีกกว่า 1.77 แสนตร.ม. คาดว่าแล้วเสร็จปี 2572 และจะมีการพัฒนาที่จอดอากาศยานสำหรับเครื่องบินทะเล หรือ Seaplane ด้วย

สนามบินเชียงใหม่” จะพัฒนาเฟส 1 วงเงินงบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ มีพื้นที่กว่า 9.5 หมื่นตร.ม. รวมทั้งจะปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ทำให้มีพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 6.66 หมื่นตร.ม. เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 8 ล้านคนต่อปี เป็น 20 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในปี 2569

  • ทอท.จ่อสร้าง 2 สนามบินใหม่ ภายใน 7 ปี

รวมทั้งทอท.ยังจะก่อสร้างสนามบินใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ “ท่าอากาศยานอันดามัน” หรือ สนามบินภูเก็ตแห่งที่ 2 บนพื้นที่ 7,300 ไร่ ลงทุนประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเพื่อรองรับผู้โดยสาร 22.5 ล้านคนต่อปี ทางวิ่ง 2 เส้น รองรับเที่ยวบินได้ 43 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และหลุมจอดอากาศยาน 44 หลุมจอด ตั้งอยู่อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ห่างจากสนามบินภูเก็ต 23.4 กิโลเมตรคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการอีก 7 ปี

สนามบินอันดามัน

ท่าอากาศยานล้านนา” หรือสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 บนพื้นที่ 8,050 ไร่ ลงทุนประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเพื่อรองรับผู้โดยสาร 24 ล้านคนต่อปี ทางวิ่ง 2 เส้น รองรับเที่ยวบินได้ 41 เที่ยวบินต่อชั่วโมง หลุมจอดอากาศยาน 38 หลุมจอด รองรับปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศได้ 3.2 หมื่นตัน ตั้งอยู่ในอำเภอสันกำแพง จ.เชียงใหม่ และอำเภอบ้านธิ จ.ลำพูน ซึ่งห่างจากสนามบินเชียงใหม่ 22 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการอีก 7 ปี

สนามบินล้านนา

อีกทั้งหาก AOT สามารถเข้าบริหาร 3 สนามบินภูมิภาคของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ได้ก็มีแผนจะพัฒนาสนามบินอุดรธานี รองรับผู้โดยสารจากปัจจุบัน 3.4 ล้านคนต่อปี เพิ่มเป็น 6.5 ล้านคนต่อปี เที่ยวบินเพิ่มเป็น 20 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ลงทุนราว 3,500 ล้านบาท และจะพัฒนาสนามบินบุรีรัมย์ให้สามารถรองรับผู้โดยสารจากปัจจุบัน 7.8 แสนคนต่อปี เพิ่มเป็น 2.8 ล้านคนต่อปี เที่ยวบินเพิ่มเป็น 25 เที่ยวบินต่อชั่วโมง วงเงินลงทุนราว 460 ล้านบาท และสนามบินกระบี่จะพัฒนาให้รองรับผู้โดยสารจากปัจจุบัน 4 ล้านคนต่อปี เพิ่มเป็น 12 ล้านคนต่อปี และเที่ยวบินเพิ่มเป็น 31 เที่ยวบินต่อชั่วโมง วงเงินลงทุน 6,500 ล้านบาท

  • ทย.กางแผนสร้าง 6 สนามบินใหม่ 2.16 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวระดับสูงจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) กล่าวว่า การสร้างสนามบินใหม่ของทย.ภายใต้การสนับสนุนงบลงทุนจากรัฐบาล มีสนามบินที่เตรียมจะสร้างใหม่ 6 แห่ง ประมาณการณ์มูลค่าการลงทุนรวม 2.16 หมื่นล้านบาท โดยตัดสนามบินนครปฐม ที่เคยมีแผนจะสร้างออกไป เนื่องจากถูกคัดค้านและมีปัญหาเรื่องการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA ซึ่งสนามบินใหม่ จะประกอบไปด้วย

  1. สนามบินมุกดาหาร ต.คำป่าหลาย อ.เมือง พื้นที่ประมาณ 2,000 ไร่ วงเงินลงทุน 5,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนเสนอ EIA
  2. สนามบินบึงกาฬ ต.โป่งเปือย และ ต.วิศิษฐ์ อ.เมือง พื้นที่ราว 2,500 ไร่ ลงทุน 3,100 ล้านบาท อยู่ระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (สผ.)การพิจารณารายงาน EIA
  3. สนามบินพัทลุง บริเวณศูนย์วิจัยข้าวพัทลุง (ควนพร้าว) ริมทะเลสาบสงขลา พื้นที่ 1,496 ไร่ ศึกษาความเหมาะสมแล้ว ลงทุน 3,075 ล้านบาท ขณะนี้มีแผนในการขอรับการจัดสรรงบปี 2569 สำหรับจ้างออกแบบทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดเครื่องบิน
  4. สนามบินสารสินธุ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ รอยต่อ จ.มหาสารคาม พื้นที่ 1,648 ไร่ ลงทุน 2,000 ล้านบาท ขณะนี้มีแผนในการขอรับการจัดสรรงบปี 2569 สำหรับจ้างออกแบบทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดเครื่องบินและองค์ประกอบอื่นๆพร้อมจัดทำรายงาน EIA
  5. สนามบินสตูล ต.เจ๊ะบิลัง อ.เมือง พื้นที่ 2,797 ไร่ ลงทุน 4,100 ล้านบาท อยู่ระหว่างจ้างออกแบบทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดเครื่องบินและองค์ประกอบอื่นๆพร้อมจัดทำรายงาน EIA
  6. สนามบินพะเยา ต.ดอนศรีชุม ต.สันโค้ง อ.ดอกคำใต้ พื้นที่ 2,812 ไร่ ลงทุน 4,421 ล้านบาท คาดหมายของบปี 68 ออกแบบรายละเอียดและศึกษา EIA ขณะนี้ได้รับการจัดสรรตามร่างพ.ร.บ.ประมาณในปี 2568 สำหรับจ้างออกแบบทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดเครื่องบินและองค์ประกอบอื่นๆพร้อมจัดทำรายงาน EIA

ไม่เพียงสนามบินของรัฐเท่านั้นในส่วนของการพัฒนาสนามบินของภาคเอกชน ผู้เล่นหลักจะประกอบไปด้วย การพัฒนาสนามบินของ “บางกอกแอร์เวย์ส” และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ของ บริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ “UTA” ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุน PPP ระหว่างรัฐและ UTA มูลค่าการลงทุน 2.04 แสนล้านบาท เปิดให้บริการปี 2572

  • บางกอกแอร์เวย์สขยายสนามบินสมุย-ตราด

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และหนึ่งในพันธมิตรผู้ลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก กล่าวว่า บางกอกแอร์เวย์ส มีแผนจะพัฒนาศักยภาพการให้บริการของ 2 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสมุย และสนามบินตราด รวมมูลค่าการลงทุน 2,300 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีนี้

พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ

โดย “สนามบินสมุย” อยู่ระหว่างปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร จากเดิม 7 อาคาร เพิ่มเป็น 11 อาคาร คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปี คาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 1,500 ล้านบาท อีกทั้งปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอขยายจำนวนเที่ยวบินเข้าสมุย จาก 50 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มเป็น 73 

ขณะที่โครงการพัฒนา “สนามบินตราด” เตรียมแผนจะสร้างอาคารผู้โดยสารเพิ่มเติม และขยายระยะทางวิ่ง (Runway) เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ จะเริ่มสร้างปี 2568 แล้วเสร็จกลางปี 2569 คาดว่าจะใช้งบ 700-800 ล้านบาท

ทั้งนี้พื้นที่ในการพัฒนาสนามบินตราด จะเป็นการลงทุนในพื้นที่ใหม่ ห่างจากสนามบินตราดเดิมเป็นกิโลเมตร  ซึ่งเป็นที่ดินแลนด์แบงก์ที่มีอยู่แล้ว ราว 1,600 ไร่ แต่จะนำมาพัฒนาราว 200-300 ไร่ เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้น สำหรับเส้นทางบินจากต่างประเทศเข้าสนามบินตราด เมื่อสนามบินตราดแห่งใหม่เปิดให้บริการ ก็จะใช้อาคารสนามบินตราดเดิมทำธุรกรรมเกี่ยวกับคาร์โก้

โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน นายพุฒิพงศ์ ยังกล่าวต่อว่า ส่วนแผนในการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ UTA อยู่ระหว่างเจรจาเงื่อนไขสัญญา กับทางอีอีซีใหม่อีกครั้ง จากเดิมที่ขอเจรจาขยายเฟสการลงทุน จาก 4 ระยะ เป็น 6 ระยะ ซึ่งการก่อสร้างในช่วงแรกเดิมได้ขอลดการให้บริการโดยสารผู้โดยสารจาก 15.9 ล้านคน เป็น 12 ล้านคนต่อปี แต่ยังคงจำนวนตามแผนเดิมที่ 60 ล้านคนต่อปี

แต่ล่าสุดเมื่อดูจากปัจจัยหลักหลายเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการสนามบินอู่ตะเภา อาจจะไม่เหมือนที่คาดไว้ตั้งแต่แรกที่เสนอแผนพัฒนาไป

เนื่องจากรัฐบาลประกาศจะพัฒนาและปรับปรุง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองเต็มเฟส ซึ่งไม่ได้มีเรื่องนี้ ตอนนี้เราคำนวณการลงทุนอู่ตะเภาในตอนนั้น รวมถึงความล่าช้าต่างๆที่ทำให้อีอีซี ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ UTA เข้าไปลงทุนได้ ซึ่งล่าช้ามากว่า 4 ปีแล้ว อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีด) เชื่อม 3 สนามบิน และสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น

ดังนั้น UTA จะเจรจากับ EEC ขอลดการก่อสร้างในระยะแรก ลดลงไปอีก โดยยังอยู่ระหว่างการหารือเป็นการภายในว่าควรจะอยู่เท่าไหร่ ควรจะอยู่ที่ 8 ล้านคน หรือจะเคาะตัวเลขที่เท่าไหร่ แต่ปลายทางก็ยังจะรองรับผู้โดยสารได้เท่าเดิมตามแผนที่เสนอไป และ UTA หวังว่าจะได้รับหนังสือแจ้งให้เอกชนเริ่มงาน (NTP) ที่คาดว่าจะได้เข้าพื้นที่ก่อสร้างเพื่อลงทุนได้ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า เพราะต้องใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี