วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจ-อุตสาหกรรม ปี 2567-2569 อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม โดยระบุว่า อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มโดยรวมปี 2566 มีทิศทางขยายตัว โดยอุปทานมีแรงหนุนจากผลผลิตต่อไร่ที่สูงจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยโดยเฉพาะภาคใต้ ราคาผลปาล์มที่จูงใจเกษตรกรเก็บเกี่ยว และเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่สูงขึ้นจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตในระยะที่เหมาะสมมากขึ้น
ส่วนอุปสงค์เร่งตัวตามคำสั่งซื้อจากในประเทศเป็นหลักจากการเปิดประเทศ การกลับมาดำเนินธุรกิจปกติโดยเฉพาะร้านอาหาร การบริโภคที่กระเตื้องขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว มาตรการปรับสูตรน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มจาก B5 เป็น B7
อย่างไรก็ตาม การส่งออกหดตัวจากตลาดอินเดียและมาเลเซียผลจากราคาน้ำมันปาล์มดิบของไทยที่สูงกว่าราคาตลาดโลกและการหันไปใช้น้ำมันพืชชนิดอื่นที่มีราคาถูกกว่าน้ำมันปาล์ม
สำหรับปี 2567-2569 อุปทานปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มโดยรวมมีทิศทางหดตัวจากผลกระทบจากปรากฏการณ์ El Niño ขณะที่ความต้องการในประเทศขยายตัวจากอุตสาหกรรมอาหารและโอเลโอเคมิคอลตามภาวะเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวจากการเปิดประเทศเต็มที่มากขึ้นหลัง COVID-19 คลี่คลาย การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่กระตุ้นธุรกิจร้านอาหาร และอุตสาหกรรมอาหาร ตลอดจนอุตสาหกรรมไบโอดีเซลที่ขยายตัวตามการฟื้นตัวของภาคขนส่ง
อย่างไรก็ตาม การส่งออกมีทิศทางหดตัวจากผลผลิตภายในประเทศที่ลดลงทำให้สต๊อกส่วนเกินไม่สูงมากนัก ประกอบกับราคาส่งออกที่มีแนวโน้มสูงกว่าประเทศคู่แข่ง โดยราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มปรับขึ้นเล็กน้อยตามผลผลิตที่ลดลงและความต้องการในประเทศที่สูงขึ้น
อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มโดยรวมปี 2567-2569 มีทิศทางขยายตัว โดยความต้องการได้แรงหนุนจากกำลังซื้อภายในประเทศทั้งอุตสาหกรรมอาหารโอเลโอเคมิคอล อุตสาหกรรมไบโอดีเซล ส่งผลให้รายได้ผู้ประกอบการมีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจยังมีความเสี่ยงจากอุปทานภายในประเทศที่มีแนวโน้มปรับลดลงตามอัตราผลผลิตต่อไร่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้ระดับราคาผลปาล์มสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นและอาจส่งผลต่ออัตรากำไรของธุรกิจ