รง.อาหารสัตว์ช็อก โดนบีบนำเข้าข้าวสาลี ให้เสร็จสิ้นใน 1 ปี

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ว่า ผลจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ที่มีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ( 27 ก.ย.67) มีผลสรุปในการจัดระเบียบซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ 3 ส่วน สามารถได้สิทธิ์นำเข้าข้าวสาลีได้ 1 ส่วน หรือเรียกว่า มาตรการ 3 :1 รูปแบบใหม่ ซึ่งในระเบียบเดิม ถ้าซื้อข้าวโพด 3 ส่วน มีสิทธิ์นำเข้าข้าวสาลีได้ 1 ส่วน ไม่ได้กำหนดเวลาการนำเข้าข้าวสาลีที่มีทั้งบริษัทใหญ่และเล็กเป็นผู้นำเข้า

โดยบริษัทใหญ่ที่มีโควตามากหน่อย จะนำเข้าในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ถ้าเป็นโรงงานเล็ก ๆ จะค่อย ๆ นำเข้า หากในปีนั้นไม่สามารถนำเข้าได้หมดก็จะสะสมโควตาไว้นำเข้าในปีถัดไป หรือบริษัทเล็ก สามารถนำโควตาไปรวมกับผู้ประกอบการรายเล็กอื่น ๆ เพื่อนำเข้าได้ จึงทำให้บางปีการนำเข้าข้าวสาลีเกิน 1.6 ล้านตัน(รัฐจำกัดการนำเข้าไม่เกิน 1.6 ล้านตันต่อปี) ซึ่งต้องยอมรับว่า จำเป็นต้องเกินบ้าง เพราะเป็นของที่สะสมเพื่อนำมาใช้

“ที่ประชุมได้ที่มีรัฐมนตรีพาณิชย์เป็นประธาน ได้ขอให้มีการนำเข้าข้าวสาลีให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด หากนำเข้าไม่หมด จะถูกตัดโควตาทิ้ง ซึ่งไม่ได้พูดถึงปีที่มีการนำเข้าน้อย ซึ่งอีกฝ่ายก็บอกว่าทำอย่างนี้ถูกแล้ว เพื่อให้ข้าวโพดไทยราคาปรับขึ้น ก็มองแค่นี้ แต่ถ้าปีไหนนำเข้ามามากก็โทษผู้ประกอบการว่าเป็นตัวการทำให้ข้าวโพดในประเทศราคาตกต่ำ”

นายพรศิลป์ กล่าวอีกว่า ในเมื่อตั้งธงแล้วว่า จะต้องนำเข้าข้าวสาลีให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี ถ้านำเข้าไม่หมดก็ให้ตัดโควตาทิ้ง พอประกาศอย่างนี้แล้วรู้สึกผิดหวัง มองการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด จึงได้บอกว่าในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เช่นการผลิตข้าวโพดในเมียนมาล่มสลาย การนำเข้าข้าวสาลีเข้ามาก็ไม่เพียงพออยู่ดี หากหมดเวลานำเข้า และนำเข้าไม่ครบ 1.6 ล้านตัน จะต้องทำอย่างไร เพราะผู้ประกอบการจะไม่มีวัตถุดิบในการผลิตจากข้อจำกัด แต่รัฐมนตรีกลับบอกว่าหากจะขอนำเข้าเมื่อไรก็จะอนุมัติให้ได้เร็วเลย

“ก็ได้พูดในที่ประชุมว่า ผมไม่สบายใจ  เพราะคำถามคือ ปี 2568 ไม่สามารถวางแผนการผลิตได้เลย เพราะวัตถุดิบก็มีแค่นี้ ต่อไปกระทรวงพาณิชย์ต้องวางแผนให้แล้วว่าโรงงานอาหารสัตว์จะเติบโตเท่าไร เพราะมีการควบคุมวัตถุดิบ ไม่เสรีและควบคุมทุกอย่าง"

นายพรศิลป์ กล่าวอีกว่า ขณะที่การนำเข้าข้าวโพดจากเมียนมา ก็จำกัดว่าจะต้องนำเข้าภายในเดือนไหน ส่วนข้าวสาลีก็ให้นำเข้าไม่ให้เกิน 1.6 ล้านตัน มองว่าไม่มีความยืดหยุ่น ก่อนหน้านี้ทางสมาคมได้เสนอข้อตกลงให้ซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หน้าโรงงานกรุงเทพ ความชื้น 14.5% ที่ 9.80 บาท/กิโลกรัม เป็นราคาประกันรายได้ ไม่ได้เป็นราคาตายตัว เพียงแต่ไม่ให้ต่ำกว่านี้ ถือว่ายุติธรรมที่สุดแล้ว และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาช่วงที่ชาวไร่ออกมาประท้วงก็ยังสูงถึง 10.50 บาท/กิโลกรัม ดังนั้นก็อยากให้ช่วยคิดว่า ราคาสมดุล และราคาข้าวโพดที่เป็นธรรมควรจะอยู่ตรงไหน