นางสาวณิชมน ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายนวัตกรรมธุรกิจ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO เปิดเผยว่า ขยะพลาสติกถือเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย โดยปี 2565 ปริมาณขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวคิดเป็นสัดส่วน 11% ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมด หรือ 2.83 ล้านตันต่อปี
โดยมีการนำขยะพลาสติกกลับไปใช้ประโยชน์ซ้ำเพียง 25% หรือประมาณ 0.71 ล้านตัน (รายงานสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย ปี 2565, 2566)
ดังนั้น NEO ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย ด้วยพันธกิจ ESG พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสุขภาพ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค
รวมทั้งการนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยลดผลกระทบด้านทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้จากปริมาณขยะพลาสติกที่เกิดขึ้น บริษัทฯ จึงได้นำ “บีไนซ์” (BeNice) ผลิตภัณฑ์บำรุงและทำความสะอาดผิว หนึ่งในแบรนด์กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล (Personal Care Products) เป็นโมเดลต้นแบบขับเคลื่อนบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยดำเนินการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ตั้งแต่ต้นปี 2562 รวมทั้งสิ้น 25 รายการ (SKUs) ผ่านนวัตกรรมการผลิต rHDPE (Recycled High-Density Polyethylene) หรือการนำขวดพลาสติกใช้แล้วนำกลับมารีไซเคิล ประกอบด้วย
“ตั้งแต่ปี 2563-2566 บริษัทฯ สามารถลดการใช้ Virgin plastic รวมทั้งหมด 211.40 ตัน หรือประมาณ 80 ตันต่อปี และคิดเป็นปริมาณคาร์บอนเทียบเท่า 1673.19 ตัน”
ทั้งนี้บริษัทฯ วางแผนจะติดสัญลักษณ์ในฉลากบรรจุภัณฑ์ตั้งแต่ไตรมาสแรก ปี 2568 เพื่อระบุว่าผลิตภัณฑ์นี้ช่วยลดการใช้พลาสติกและสร้างการรับรู้และรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ตัดสินใจซื้อแบรนด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
NEO ตั้งเป้าหมายให้ผลิตภัณฑ์ บีไนซ์ (BeNice) เป็นโมเดลต้นแบบขับเคลื่อนนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยวางเป้าหมายว่าบีไนซ์ (BeNice) จะใช้บรรจุภัณฑ์ครึ่งหนึ่งจากวัสดุที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล 30% ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกบริสุทธิ์หรือพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว (Virgin Plastic) เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 80 ตันต่อปีภายในปี 2568
“เรามีแบรนด์สินค้า 8 แบรนด์ พร้อมขยายผลสู่บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยแผนระยะยาว มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม"
NEO เชื่อว่าจะสร้างโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากให้กับทุกคน โดยจะพัฒนาบรรจุภัณฑ์ครบวงจรอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การดีไซน์โครงสร้างของตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการใช้พลาสติกอย่างคุ้มค่า เพิ่มความแข็งแรง และให้สามารถลดของเสียในไลน์การผลิตและบรรจุ
รวมถึงเพิ่มจำนวนต่อการขนส่งสินค้าต่อรอบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งได้นำนวัตกรรมสำหรับฝาของบรรจุภัณฑ์ขนาด 80, 170 มล. เปลี่ยนมาใช้ระบบ Bi-injection เพื่อลดการใช้สี ช่วยให้ระบบการรีไซเคิลมีความสมบูรณ์มากขึ้น สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ดีขึ้น เพื่อมุ่งสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ และสร้างสรรค์อนาคตที่มั่นคงด้านสิ่งแวดล้อม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง