นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยในงานสัมมนา Sustainability Forum 2025: Synergizing for Driving Business ช่วง The Next Chapter of Transportation for Sustainability จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ว่า แผนการขับเคลื่อนของกระทรวงคมนาคม แบ่งเป็น เรื่อง ประกอบด้วย 1.การเดินทางของคน 2.การขนส่งสินค้า ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้ขับเคลื่อนเปลี่ยนการเดินทางจากการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะและรถไฟฟ้ามากขึ้น รวมถึงมาตรการจูงใจประชาชน เช่น การจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge)
ในปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะดำเนินการใช้อย่างไรให้เหมาะสม เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมของคนมาใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น ในช่วงที่ผ่านมาการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge) พบว่ามีหลายประเทศได้ดำเนินการนำมาใช้แล้ว ทำให้การจราจรติดขัดและปริมาณฝุ่น PM 2.5 ลดลง เช่น อังกฤษ
ส่วนการขนส่งสินค้า เบื้องต้นจะลดการขนส่งสินค้าผ่านรถบรรทุกลดลง เนื่องจากทำให้ปริมารฝุ่นเยอะ รวมถึงมีต้นทุนค่อนข้างสูง โดยเปลี่ยนให้มาใช้การขนส่งผ่านระบบรางมากขึ้น เช่น การพัฒนารถไฟทางคู่ การพัฒนาสถานีเปลี่ยนถ่ายขนส่งสินค้า
“ขณะนี้ปัญหาสิ่งแวดล้อมรุนแรงมากขึ้น เช่น น้ำท่วมภาคเหนือและภาคใต้ ซึ่งไม่ใช่สถานการณ์ปกติแต่เป็นภาวะที่โลกเปลี่ยนแปลงไป นอกจากการดำเนินการให้ระบบขนส่งสะดวก สบาย มีประสิทธิภาพแล้ว ต้องพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดการปล่อยฝุ่น PM 2.5 ขณะนี้ได้มีการปรับใช้เป็นรถโดยสารอีวีมากขึ้นทั้งรถบขส.และขสมก. รวมถึงรถโดยสารของเอกชนที่เป็นรถพลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนเป็นเรือไฟฟ้า ฯลฯ” นายปัญญา กล่าว
นายปัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการการเร่งรัดการพัฒนาด้านการคมนาคมในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเพื่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เกิดจากความร่วมมือทั่วประเทศที่ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจากการประชุมของสหประชาชาติในประเทศไทยได้ตั้งเป้าลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 160 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์
ขณะที่กระทรวงมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว 40 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะต้องมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนเป็นรถอีวีมากขึ้น
“เรื่องนี้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถือเป็นเรื่องใหม่ ทำให้สนข.มีการศึกษาโครงการฯนี้จากการวัดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ทำให้ประเทศทั่วโลกยอมรับ โดยโครงการนี้ได้จัดทำเพื่อรองรับทุกโหมดในกระทรวงคมนาคม ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการรายงานผลการศึกษาต่อกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมให้ทราบ” นายปัญญา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง