อัลตร้าซาวน์อัตลักษณ์ ฉากที่ 2

ผมถนัดปากที่จะเรียกท่านด้วยความเคารพว่า หลวงพ่อปัญญานันทะ เพราะคุ้นเคยกับท่านมาตั้งแต่ผมอายุ 5 ขวบ เจอกันทีไรท่านก็จะทักผมว่า “ว่าไง พระเอก!” ท่านเคยเทศน์ในวันปีใหม่เอาไว้น่าฟังมิใช่น้อย

 

“คนเรามันจะเฮงหรือจะซวย ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ วันปีเก่า หรือ วันปีใหม่ ถ้าเราเอาผลไม้ไปให้เขาเมื่อปีเก่า วันที่ 31 ธันวา ปีใหม่ วันที่ 1 มกรา เขาก็เอาเค้กมาให้เรา ถ้าเราไปยั่วยวนกวนชวนทะเลาะกับเขาเมื่อปีเก่า วันที่ 31 ธันวา ปีใหม่ วันที่ 1 มกรา เขาสรุปแล้วว่าเราเป็นมะม่วง จึงยกพวกมารุมยำเรา…” (ฮา)

วันปีใหม่ในอเมริกา เขาจะร้องเพลง Auld Lang Syne ต้อนรับปีใหม่ เนื้อหาแตกต่างจากเพลง สามัคคีชุมนุม จากนั้นเขาจะกิน “ถั่วดำ” เพื่อนำมาซึ่ง ความโชคดี!

 

สำหรับ สเปน เมืองเขาจะนิยมกินองุ่น 12 ผล ครั้งละ 1 ขีด ของ นาฬิกา โดยนับจากเที่ยงคืนในวันส่งท้ายปีเก่า องุ่นแต่ละลูกคือความโชคดีของแต่ละเดือนในปีหน้า มีคนชี้เพิ่มเติมว่า ปลาถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ดีอีกอย่างหนึ่ง เนื่องจากปลาจะว่ายไปในทิศทางที่มีอาหาร เป็นการสตาร์ทอัพว่า นับจากวันปีใหม่ เราจะอุดมสมบูรณ์ ผมเชียร์ไอเดียนี้โดยมีข้อแม้อยู่ว่า การทานปลาหรือเนื้อสัตว์โดยที่เราไม่บาป ตัวเราจะต้อง 1.ไม่ฆ่าเอง 2.ไม่สั่งหรือสนับสนุนในการฆ่า 3.ไม่ยินดีในสิ่งที่เราได้กิน จงกินเพราะมีให้กินเช่นนั้น

สกอตแลนด์ เชื่อว่า “ก้าวแรก” ของ คนแรก ที่ข้ามธรณีประตูบ้านหลังเที่ยงคืน ควรพกของขวัญแห่งความโชคดีติดตัวไว้ด้วย ศรัทธากันแบบแม่ค้าบ้านเราเลยนะว่า การเริ่มประเดิมครั้งแรกเป็นสัญญาณชะตาชีวิต 
ส่วน โคลอมเบีย เขาจะเอากระเป๋าเดินทางเปล่าติดตัวเดินไปรอบๆบริเวณอันควรเพื่อจะเอาเคล็ดว่า ปีใหม่จะได้มีความพร้อมทั้งทุนกับเสบียงและตัวเขาเองในการเดินทางไปรับโชค

                                            

การต้อนรับปีใหม่ใน เดนมาร์ก เขาจะขว้างจานเก่าและแก้วเก่าที่ประตูบ้านเพื่อขับไล่วิญญาณที่เลวร้าย
เคยมีข่าว การขว้างถ้วยไปที่บ้านเพื่อนเพื่อล้างซวย ผลก็ปรากฏว่า ถ้วยไม่แตกแต่หน้าต่างของเพื่อนแตกแทน ดูเหมือนว่าเพื่อนเขาดวงกำลังซวยอยู่จริงๆ ซะด้วย (ฮา) ขณะที่ ปานามา เขาจะขับไล่วิญญาณชั่วร้ายในปีใหม่ ด้วยการ เผาสัญลักษณ์อัปมงคลที่สังคมรู้จักกันดี เช่น ตัวละครโทรทัศน์ ตัวเลขทางการเมือง หรือ หุ่นจำลอง

                                        

หันมาดู ฟิลิปปินส์ รูปทรงกลมจะโผล่ทั่วประเทศ ในฐานะตัวแทนของเหรียญเพื่อเป็นสัญลักษณ์ความเจริญรุ่งเรืองในปีหน้า หลายครอบครัวจะวางกองผลไม้ไว้บนโต๊ะอาหาร บางบ้านจะกินผลไม้ทรงกลม 12 ผล ในเวลาเที่ยงคืน ตามมาด้วยการสวมลายจุดให้ช่วยดูดโชค บ้านเราก็มีคนใส่ชุดลายจุดแต่โชคไม่เข้าข้าง (ฮา)

 

ที่ บราซิล เอกวาดอร์ โบลิเวีย เวเนซุเอลา คิดว่าจะโชคดีถ้าได้สวมชุดชั้น สีแดง หรือ สีเหลืองวันส่งท้ายปีเก่า

 

สีแดง จะนำความรักมาให้ และ สีเหลือง จะนำเงินมาให้ สงสัยเมืองเหล่านี้จะเป็นแฟนคลับการเมืองไทย (ฮา)
 

 

วันปีใหม่ใน กรีซ พ่อแม่จะปลุกลูกโดยเอาหัวหอมมาแตะหัว รุ่งขึ้นจะแขวนหัวหอมไว้ที่ประตูหน้าบ้าน หัวหอมเป็นนิมิตของความโชคดีและอุดมสมบูรณ์เพราะหัวหอมจะงอกออกมาแม้ว่าไม่มีใครสนใจ แหม ใครมีโล่ผมขอยืมแป๊บ จะเอามาถ่ายสร้างภาพให้พี่เขาหน่อย 

 

ช้าก่อน ที่สุดของที่สุดผมขอยกให้ คนเบลเยียมภาคใต้ คือ Walloon และ Flemish คือ คนเบลเยียมภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เกษตรกรกลุ่มชาติพันธุ์ที่ตื่นแต่เช้าในวันที่ 1 มกราคม เพื่อ อวยพร “สวัสดีปีใหม่” บรรดา หมู ม้า วัว ไก่ รวมทั้ง สัตว์อื่นๆ ในฟาร์ม เขาเชื่อว่า การให้ความรู้สึกที่ดีแก่สัตว์เลี้ยงไม่มีปีไหนที่จะไม่รุ่งเรือง ผมรีบกราบเท้าคนพวกนี้เมื่อได้อ่าน

 

หนึ่งในอัตลักษณ์คนไทยที่แฝงอยู่สายเลือด คือ เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ยอม จะให้เงินแม่ทั้งทีไม่ต้องมีดอกสร้อย “ให้แล้วอย่าเอาไปเล่นไพ่หมดนะแม่” ทำไมหูตาแม่ถึงได้อาภัพกว่าสัตว์เลี้ยงในเบลเยี่ยม?

 

วันปีใหม่ วันคล้ายวันเกิด วันแม่ วันสงกรานต์ ผมจะกราบเท้าแม่สามครั้ง ผมกราบครั้งที่หนึ่งแล้วบอกท่านว่า “ผมขอขมา คุณแม่ ในทุกกรณีที่เคยล่วงเกิน” ผมกราบครั้งที่สองแล้วบอกท่านว่า “ผมขอบพระคุณที่ คุณแม่ ยังคงห่วงใยเอาใจใส่ผมจนถึงวันนี้”

 

ผมกราบครั้งที่สามแล้วบอกท่านว่า “ผมแสดงความเคารพในความเป็นแม่ เพราะว่า คุณแม่ เป็น แม่ที่ดีของผมเสมอ” เสียดายอยู่อย่างหนึ่งที่ผมไม่ได้ทำ คือ ล้างเท้าให้แม่แล้วกรองน้ำล้างเท้าเอาไปอาบรดหัว คติธรรมที่ว่า “ถ้าอยากจะได้ต้องให้เขาก่อน” ขลังทุกวินาที

 

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา แปลว่า ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความ “สวัสดี” จงบังเกิดมีแก่ ท่านทั้งหลาย ตลอดกาลทุกเมื่อ