ถึงเวลาที่ไทยควรพิจารณาดึงดูดนักลงทุนจากเกาหลีใต้ในพื้นที่ EEC

13 ก.ย. 2567 | 23:30 น.

ถึงเวลาที่ไทยควรพิจารณาดึงดูดนักลงทุนจากเกาหลีใต้ในพื้นที่ EEC : คอลัมน์แก้เกมเศรษฐกิจการเมือง โดย…ศ.ดร.อรรถกฤต ปัจฉิมนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์เพื่อประชาธิปไตย

พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ตามแนวชายฝั่งตะวันออกของประเทศไทย เป็นที่สนใจอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนจากเกาหลีใต้ โดยมอบโอกาสในการขยายฐานธุรกิจสู่ตลาดอาเซียนที่กว้างขึ้น ภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่ส่งเสริมการค้าและการลงทุนอย่างเสรี 

ประเทศไทยยังสามารถเป็นศูนย์กลางการผลิตและโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค ทำให้บริษัทเกาหลีใต้สามารถขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีโอกาสเติบโตอย่างชัดเจน การลงทุนใน EEC ยังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อนโยบายทางเศรษฐกิจและกฎหมาย 

นอกจากนี้ ประเทศในอาเซียนอื่นๆ เช่น เวียดนาม และ มาเลเซีย ก็เป็นคู่แข่งสำคัญในด้านการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) การรักษาความน่าสนใจของประเทศไทย จำเป็นต้องมีการสร้างเสถียรภาพทางการเมือง และการเสนอสิ่งจูงใจที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง 

ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมก็เป็นอีกหนึ่งข้อกังวลสำคัญ กิจกรรมอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ EEC ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม มลพิษ และ การสูญเสียทรัพยากร ซึ่งบริษัทเกาหลีใต้ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน อาจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อส่งเสริมการลงทุนให้ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ 

ไทยและเกาหลีใต้ควรเพิ่มความร่วมมือในภาคเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะในด้านหุ่นยนต์ เมืองอัจฉริยะ และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ EEC ที่มุ่งสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ 

นอกจากนี้ การใช้กลไกความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) และการพัฒนาทุนมนุษย์ผ่านโปรแกรมฝึกอบรมเฉพาะทาง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงในพื้นที่นี้ 

สุดท้ายนี้ การรักษาเสถียรภาพทางการเมืองและการพัฒนานโยบายที่เอื้อต่อการลงทุนอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยชี้ขาดในการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนเกาหลีใต้ และช่วยให้ EEC สามารถแข่งขันในเวทีระดับภูมิภาคได้อย่างยั่งยืน

กลยุทธ์ของประเทศไทยในการดึงดูดนักลงทุนจากเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีหลายแนวทางที่สำคัญ ได้แก่ 

1. มาตรการจูงใจด้านภาษีและสิทธิพิเศษ โดยรัฐบาลไทยจะต้องออกมาตรการยกเว้นภาษีและสิทธิพิเศษอื่น ๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และอุตสาหกรรมดิจิทัล นักลงทุนที่มาลงทุนในเขต EEC จะได้รับสิทธิประโยชน์จาก การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นระยะเวลานานถึง 13 ปี รวมถึงสิทธิในการถือครองที่ดินในพื้นที่ EEC 

2. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย โดยประเทศไทยได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย เช่น ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง สนามบินอู่ตะเภา และ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เพื่อสร้างระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเชื่อมต่อกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียนได้อย่างรวดเร็ว โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนเกาหลีใต้สามารถขนส่งสินค้าระหว่างประเทศได้อย่างสะดวก 

3. การส่งเสริมความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยไทยมีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและเทคโนโลยีในภูมิภาค จึงมีการสนับสนุนการร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) กับบริษัทเกาหลีใต้ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม ในเขต EEC เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ โดยไทยให้การสนับสนุนในการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อรองรับความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ 

4. การสร้างความเชื่อมั่นผ่านความร่วมมือภาครัฐและเอกชน (PPP) โดยรัฐบาลไทยสนับสนุนการลงทุนผ่านรูปแบบความร่วมมือภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnership - PPP) เพื่อแบ่งเบาความเสี่ยงในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและโครงการนวัตกรรมต่าง ๆ นักลงทุนเกาหลีใต้สามารถเข้าร่วมในโครงการเหล่านี้ เพื่อสร้างความมั่นคงและได้รับผลตอบแทนระยะยาวจากการร่วมทุนกับภาครัฐ  

5. การส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางการเมืองและกฎระเบียบที่เอื้อต่อการลงทุน โดยประเทศไทยมุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมั่นในสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่มีเสถียรภาพ และการปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการลงทุนจากต่างชาติ โดยการลดขั้นตอนทางราชการ ให้รวดเร็วและโปร่งใสมากขึ้น เพื่อให้นักลงทุนจากเกาหลีใต้สามารถดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้น 

6. การพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากร โดยรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะและความสามารถของแรงงาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง รัฐบาลได้จัดทำโครงการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการแรงงานที่มีทักษะสูงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ และ ดิจิทัล เป็นต้น

ดังนั้น กลยุทธ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของประเทศไทย ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน และส่งเสริมการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับเกาหลีใต้ และ ไทยควรเรียนรู้แนวทางนโยบายของเกาหลีใต้ในพื้นที่พิเศษ ที่ใช้ในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษ (Free Economic Zones - FEZs) มีนโยบายที่สำคัญหลายประการเพื่อสนับสนุนการลงทุน

โดยบทความต่อไปจะพูดถึงความสำเร็จและกลยุทธ์ของประเทศเกาหลีใต้