ประธานบริษัท แวะชมนกแก้วที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง นกแก้วตัวหนึ่งกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ และเคาะแป้นคีย์บอร์ดอยู่เรื่อยๆ เป็นเหตุให้ซักถามกันอย่างน่าสนใจ
ปธ.บริษัท : นกแก้วตัวนั้นราคาเท่าไหร่
เจ้าของร้าน : 15,000 บาท
ปธ.บริษัท : แล้วมันทำอะไรได้บ้างล่ะ
เจ้าของร้าน : เขาใช้ Window, Mac,Unix รวมทั้ง ซอฟแวร์ Office ได้หมด
ปธ.บริษัท : ตัวที่อยู่ข้างมันล่ะ…
เจ้าของร้าน : 25,000 บาท
ปธ.บริษัท : โอ้โห อย่างนี้มันคงเขียนโปรแกรมได้ด้วยมั้ง
เจ้าของร้าน : ใช่เลย มันยังดูแล Server และ เขียนโปรแกรมจัดการกับ Database ของร้านได้ด้วยนะ
ปธ.บริษัท : ไอ้ตัวที่มันนั่งอยู่เฉยๆ ราคาเท่าไหร่ล่ะ
เจ้าของร้าน : 100,000 บาท
ปธ.บริษัท : เฮ้ย มันทำอะไรได้บ้างล่ะ
เจ้าของร้าน : ผมก็ไม่รู้ แต่เห็นไอ้ 2 ตัวนั้น เรียกมันบ่อยว่า หัวหน้า… หัวหน้า… (ฮา!)
ปธ.บริษัท : ฮ่ะๆ เอามันมาเลยทั้งสามตัว
เจ้าของร้าน : เอาไปทำอะไรทั้งสามตัว…
ปธ.บริษัท : จะเอาไปแขวนไว้กลางโรงงานให้พนักงานฟัง (ฮา!)
ถึงแม้ว่ามุกนี้มันจะโอเว่อร์เกินไปหน่อยแต่เราก็อย่ามองข้าม สมัยพระเจ้าเหาทรงพระเยาว์ก็มีเรื่องเล่าเกินจริงว่าจะมีคนเหาะอยู่บนฟากฟ้า สโมสรโรงเตี๊ยมล้อกันไม่ว่างเว้น ใครจะไปเชื่อว่าในที่สุด โลกนี้ก็มีมนุษย์ที่มีปัญญาเหนือกว่ามนุษย์สร้างเครื่องบินได้จริง
ผู้เฒ่าจึงสอนว่า “จงฟังทุกสิ่งที่ควรฟัง อย่าเลือกฟังแต่เฉพาะสิ่งที่เราชอบ!” หากมีผู้ใดบอกว่า “สัตว์โลกก็มีวัฒนธรรม!” อย่าเพิ่งผลีผลามขำกลิ้ง ระวังจะกลิ้งก่อนขำ (ฮา!)
สัตว์โลกก็มีวัฒนธรรม Kinji Imanishi เขาเป็น “ผู้ชำนาญการทางด้านวิจัยสัตว์” เขาบันทึกความคิดเห็นว่า “ลิงแสมญี่ปุ่น” เขามี “วัฒนธรรม” ในด้านอนามัย “มีวินัยในสุขลักษณะ” ต่อเนื่องกันมายาวนาน คือ “ลิงแสมเขาจะล้างมันฝรั่งหวานก่อนจะกัดกิน” (ฮา)
โปรดอย่าลืมว่า “วัฒนะ” คือ “เจริญงอกงาม” และ “ธรรม” คือ “ความดี” ดังนั้น วัฒนธรรม จึงมีความหมายกว้างไกลไปถ้วนทั่วทั้งจักรวาล สักวันหนึ่งคงจะประจักษ์ว่า ประเทศยักษ์ใหญ่ เขาอุบอิบติดต่ออยู่กับ มะนาวต่างดุ๊ด (ฮา)
วัฒนธรรม หมายถึง การมุ่งทำให้ทุกสิ่งเกิดผลดีมีความงอกงามช่วยให้ทุกอย่างเจริญเติบโต ด้วยเหตุดั่งว่า “นักวัฒนธรรมมืออาชีพ!” จึง “มุ่งหมายให้เกียรติผู้ตั้งใจทำดีโดยธรรมเพื่อความเจริญงอกงามถ้วนทั่ว”
กรุณาอย่าผูกขาด “ฮุบหัวใจวัฒนธรรม” เอาไว้เป็นกรรมสิทธิ์ของมนุษย์แต่พียงฝ่ายเดียว
นกแก้ว เป็น นักศึกษานอกโรงเรียน และ เป็นสัตว์สังคมชั้นสูง จัดว่าเป็นหนึ่งในบรรดาสรรพสัตว์ของโลกที่ ฉลาดมากที่สุด มนุษย์ประทับใจความสามารถที่รู้จักการเลียนแบบภาษาและเรียนรู้แบบครูพักลักจำจากกลอุบายต่างๆ
นกแก้วแอฟริกันสีเทา เป็น นกที่ฉลาด สามารถจดจำคำศัพท์ได้ถึง 1,000 คำ และ พัฒนาคลังคำศัพท์ได้มาก คงจะน่าเห็นใจ และ น่าเสียดาย ถ้านกแก้วแอฟริกันสีเทา ตายก่อนวัย อันสืบเนื่องมาจาก หัวคะแนน เดินผ่านกรง แล้ว นกแก้ว มันก็พูดตามหลังมาว่า “คืนหมาหอน... คืนหมาหอน... ” (ฮา)
ถ้าเราพูดถึง นกปากขอ (Psittaciformes) คงจะนึกไม่ออกว่าหน้าตาเป็นอย่างไร หากบอกว่าเป็น นกแก้ว รถไฟสายสีน้ำเงินก็จะจอดให้ที่สถานีบางอ้อ นกแก้ว สามารถเปล่งเสียงเหมือนเสียงโทรศัพท์ เพราะว่าเขามี 2 สิ่ง ที่ นกชนิดอื่นไม่มี คือ “สมองที่ฉลาดปราดเปรื่อง” กับ “ลิ้นที่ใหญ่และหนา”
มันน่าสนใจเป็นพิเศษไหมล่ะ นกแก้ว เขาจะสืบสันดานการแบ่งปันอาหารให้กับนกแก้วตัวอื่น ทั้งๆ ที่ไม่คุ้นเคยกันมาก่อน ว้าวไหมล่ะ…
ผมชูธงว่า “นกแก้ว คือ หนึ่งในหมู่สัตว์ผู้มีวัฒนธรรมระดับมรดกโลก!”
ใครจะคิดว่าผมบ้าไปแล้วก็ช่าง ผมรู้ตัวดีว่า ผมบ้าน้อยกว่า “เศรษฐียุคโรมันกินลิ้นนกในติงเกลมื้อละจาน!”
ช้าง ไม่ร่วมเพศกับ แม่ ใครปากไว “ด่าแม่ช้าง!” รับประกันกินดิบแน่นอนว่า ไปไม่รอดถึงบ้าน
ที่น่าสงสารเห็นจะเป็น ปลาโลมา เพราะเขาเป็น องครักษ์จิตอาสา ไม่วายโดนชาวประมงฆ่าเอามาขาย ถามกันซื่อๆ เลยว่า สภาผู้แทนสัตว์โลก ลงมติกันซะเมื่อไหร่ว่า “สัตว์เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์!”
วัฒนธรรมขนานแท้ระดับโครตๆ เลยนะเอ็ง…