วันนี้รู้สึกเป็นห่วงฮ่องกง เพราะความอดทนของปักกิ่งเริ่มเหลือน้อยเต็มที อาจส่งกำลังทหารเข้าจัดการ “ม็อบ” หลังการชุมนุมยืดเยื้อมา 4 เดือน เริ่มใช้ความรุนแรงตอบโต้กันจากทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนขยายวง เป็นการทุบทำลายร้านค้าและสถานีรถไฟฟ้า ส่งผลให้เศรษฐกิจฮ่องกงเริ่มยํ่าแย่ รวมทั้งการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก!!
ขณะที่ช่วงแรกที่มีชุมนุมประท้วงนั้น หากสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่า “ม็อบ” เคลื่อนไหวโดยไม่มี “แกนนำ” มีเพียงนายโจ ซัว หว่อง ที่เปิดตัวในฐานะตัวแทนฯ นั่นเป็นเพราะขบวนการนี้นัดแนะกันผ่านฟอรัมออนไลน์ที่ชื่อ LIHKG ซึ่งเป็นศูนย์รวมของกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย-ต่อต้านจีน และจะแพร่ข่าวผ่านแอพพลิเคชัน Telegram หลัก 8 กลุ่ม...
แนวทางก็คือ “การรบแบบกองโจรโดยสันติ”...คือการปรากฏตัวของผู้ร่วมชุมนุมเสมือนไม่ได้นัดหมาย แต่มาชุมนุมกันตามจุดที่บอกกล่าว (ต่อ) อย่างรวดเร็วเป็น “แฟลชม็อบ” ที่เป็นยุทธวิธีที่คนรุ่นใหม่คุ้นเคยกันดี นั่นคือ เมื่อมาถึงที่นัดหมายก็จะจัดการปักหลักนั่งชุมนุมไม่ยอมไปไหน?เพื่อให้ตรงกับคอนเซ็ปต์ “โดยสันติ”
รัฐบาลปักกิ่งรู้ดี ว่าอังกฤษและสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนทางด้านกำลังใจแก่ผู้ชุมนุมประท้วง จึงรู้ว่ากำลังต่อสู้กับอะไร? หากจะบุกด้วยกำลังทหารก็จะเข้าทางตะวันตก ที่เข้าไปสอดแทรกในกลุ่มเด็กๆ ผู้ประท้วงด้วยใจบริสุทธิ์??
เช่นเดียวกับปัญหาชาวอุยกูร์...ถ้ายังจำได้ เวลาจับชาวอุยกูร์ได้ที่เมืองไทย พวกเขาจะขอให้ส่งตัวไปตุรกี ไม่ขอกลับซินเกียงของจีน นั่นเป็นเพราะอะไร? เพราะอาณาจักร “ออตโตมาน” ของตุรกี ที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายกรุงสุโขทัย แต่มาล่มสลายในยุครัชกาลที่ 5 เมื่อจักรภพอังกฤษเอาชนะโลกได้สำเร็จ
ซินเกียงของจีนถูกอาณาจักรออตโตมัน (ตุรกี) ยึดครองอยู่นานจนเปลี่ยนซินเกียงเป็นโลกมุสลิม ประชาชนทั้งหมดถูกบังคับให้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม และชาวตุรกีได้เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ผสมผสานกับเผ่าท้องถิ่น จนพวกเขารู้สึกว่า ตัวเองเป็นชาวตุรกี เมื่อจีนยึดซินเกียงกลับคืนมาในช่วงรัชกาลที่ 5 ชาวซินเกียงได้ต่อสู้กับรัฐบาลจีนมาจนทุกวันนี้
เมื่อ 121 ปีที่เเล้ว (หลังสงครามฝิ่น ครั้งที่ 2) จีนรบแพ้อังกฤษ อังกฤษกับราชวงศ์ชิงได้เซ็นสัญญาให้อังกฤษเช่าเกาะฮ่องกงเป็นเวลานาน 99 ปี เพิ่งคืนให้จีนเมื่อ 22 ปีที่แล้วนี่เอง แต่เมื่อกลับเข้าสู่อ้อมกอดของมาตุภูมิอีกครั้ง แต่ชาวฮ่องกงที่ออกมาชุมนุมทั้งหลายกลับไม่ได้ตระหนักหรือเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับชาวซินเกียง...
เมื่อเป็นอย่างนี้ รัฐบาลปักกิ่งเลยเดินหมากสู้ปัญหาการประท้วงฮ่องกงแบบชาติที่มีปัญญา คือ “รู้เขา-รู้เรา” รู้ช่วงจังหวะเวลา รวมทั้งยังรู้กระทั่ง ว่าตะวันตกต้องการทำลายฮ่องกงเพราะอะไร? ปักกิ่งรู้ จึงออกข่าว “บลัฟ” ว่าจะใช้เสินเจิ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแทนฮ่องกง!?!?
แต่รู้ใช่มั้ยครับ ว่าตะวันตกต้องการทำลายฮ่องกงเพราะอะไร?
• เพราะฮ่องกงเป็นท่าเรือและศูนย์กลางการเงินที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของทั้งโลก
• เพราะฮ่องกงเป็นประเทศที่ส่งสินค้าออกมากที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก
• เพราะฮ่องกงเป็นประเทศที่นำเข้าสินค้ามากเป็นอันดับ 9 ของโลก
• เพราะเงินสกุลดอลลาร์ฮ่องกง คือสกุลเงินหลักอันดับ 13 ของโลก
• เพราะประชาชนฮ่องกงมีรายได้ต่อหัวสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
• และเพราะฮ่องกงทำรายได้มากที่สุดเมืองหนึ่งของโลกและมีคนรวยอาศัยอยู่มากแห่งหนึ่งของโลก
มาถึงตรงนี้ หลายคนวิเคราะห์สถานการณ์ที่ฮ่องกง ว่า “การประท้วงที่ฮ่องกง ไม่ว่าจะอย่างไร?ก็ตาม ความรุนแรงจะตามมา เมื่อปักกิ่งหมดความอดทน...” แต่ผู้เขียนกลับคิดตรงข้ามว่า รัฐบาลปักกิ่งคงจะรักษาสถานะฮ่องกงเอาไว้อย่างนี้ไปก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ปรับเปลี่ยนวิธีจัดการกับฮ่องกงในวันข้างหน้า- -จะไม่เปิดศึกหลายหน้าพร้อมกัน
คอลัมน์ อยู่กับปัจจุบัน โดย พงษ์ศักดิ์ ศรีสด
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,513 วันที่ 13-16 ตุลาคม 2562