สำนักงานสาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์เนียรายงานว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 4,515 ราย ทำสถิติการติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 173,324 ราย
นอกจากนี้ รัฐเซาท์แคโรไลนา รัฐมิสซูรี รัฐเนวาดา รัฐแอริโซนา รัฐยูทาห์ รัฐมอนทานา รัฐเท็กซัส รัฐโอกลาโฮมา และรัฐโอเรกอน ทำสถิติติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
นายสก็อตต์ ก็อตเลียบ ผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ว่า "เราเห็นการกลับมาแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรัฐทางตอนใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ เนื่องจากรัฐเหล่านี้ไม่ได้ควบคุมการแพร่ระบาดอย่างจริงจัง"
นอกจากนี้ นายก็อตเลียบ คาดว่าบางรัฐอาจมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณภายในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐเท็กซัส รัฐแอริโซนา และรัฐฟลอริดา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเชื่อว่า การที่สหรัฐพยายามเร่งเปิดเศรษฐกิจ รวมทั้งการประท้วงต่อกรณีการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ และการที่ประชาชนไม่ร่วมมือที่จะปฎิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและการสวมใส่หน้ากาอนามัยนั้น ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า ณ เวลา 07.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยอยู่ที่ 2,278,373 ราย รองลงมาคือบราซิล 2,278,373 ราย, รัสเซีย 583,879 ราย, อินเดีย 410,461 ราย และสหราชอาณาจัร 305,803 ราย
นอกจากนี้ สหรัฐยังมียอดผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 ขอโลก โดยอยู่ที่ 19,959 ราย รองลงมาคือบราซิล 50,591 ราย, สหราชอาณาจักร 42,717 ราย, อิตาลี 34,634 ราย และฝรั่งเศส 29,643 ราย