ก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯและภรรยา จะตรวจพบว่า ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา "ทรัมป์" เคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับการระบาดและการป้องกันโรคโควิด-19 จนถูกวิพากวิจารณ์จากหลายฝ่ายมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะความล้มเหลวในการรับมือกับการระบาดโรคโควิด-19 จนทำให้สหรัฐอเมริกา ตกเป็นประเทศที่เผชิญกับการระบาดหนักที่สุดและมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 2 แสนคน
พาไปไล่ย้อนดูไทม์ไลน์คำพูดบางช่วงบางตอนของ “โดนัลด์ ทรัมป์” กัน
22 ม.ค.ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซี ระบุว่า "เราสามารถควบคุมมันได้แล้วแค่คนเดียวที่มาจากจีน เราควบคุมมันได้ทั้งหมดแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดี"
24 ม.ค.ทางทวิตเตอร์ ระบุว่า "จีนกำลังเร่งควบคุมโคโรนาไวรัสอย่างหนัก สหรัฐฯชื่นชมในความพยายามและความโปร่งใสของพวกเขา มันจะต้องเรียบร้อย ในฐานะของชาวอเมริกัน ผมขอขอบคุณประธานาธิบดี สี!”
23 ก.พ. ให้สัมภาษณ์นักข่าว: "พวกเรามีส่วนอย่างมาก พวกเรารู้ทันว่า กำลังเกิดอะไรขึ้น พวกเราสามารถควบคุมทุกอย่างในประเทศนี้ได้เป็นอย่างดี"
27 ก.พ. ที่ทำเนียบขาว : "มันจะต้องหายไปวันหนึ่ง มันจะหายไปเหมือนปาฏิหาริย์ มันจะหายไปอย่างแน่นอน"
10 มี.ค. หลังการประชุมวุฒิสมาชิกรีพับลิกัน : "นี่เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดและมันกระทบไปทั่วโลก เราเตรียมการแล้วและพวกเราทำได้ดีมาก ไม่นานมันจะหายไปเพียงแค่อย่าตื่นตระหนก มันก็จะหมดไป"
13 มี.ค. ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ระบุว่า "ไม่นะ ผมไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เพราะว่ามันเป็นสถานการณ์เฉพาะและเราก็ออกกฎไปแล้ว กฎข้อบังคับต่างๆและคำสั่งเฉพาะในช่วงเวลานั้นๆ"
15 มี.ค. ในระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว : "มันเป็นไวรัสที่แพร่ระบาดได้ง่าย อย่างไม่น่าเชื่อแต่มันก็ยังเป็นสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้อยู่ดี"
18 มี.ค. ทางทวิตเตอร์ : "ผมรับมือกับไวรัสจีนนี้อย่างจริงจังเสมอและทำได้ดีมาตั้งแต่เริ่มต้น รวมทั้งการตัดสินใจตั้งแต่ต้นที่จะปิดพรมแดนจากจีน"
3 เม.ย. แถลงที่ทำเนียบขาว ระบุว่า "การสวมหน้ากาก เป็นเรื่องของความสมัครใจ คุณจะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ ผมเลือกที่จะไม่สวมมันแต่บางคนอาจจะอยากสวมหน้ากากซึ่งมันก็ไม่เป็นไร"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"คิม จอง อึน" ส่งข้อความอวยพร "ทรัมป์-ภรรยา"หายจากโควิด-19 โดยเร็ว
สื่อมะกันแขวะทรัมป์ ทำใจกล้าแต่ขาสั่นเรื่อง "โควิด"
คะแนนนิยม "ทรัมป์"ดิ่งต่อ ผลงานการรับมือโควิด "ไม่ผ่าน"
ธุรกิจไทยผวา "ทรัมป์"ไปต่อ ป่วนค้าโลกรอบใหม่
23 เม.ย. แถลงที่ทำเนียบขาว ระบุว่า "ผมเห็นยาฆ่าเชื้อก็นึกขึ้นมาได้ในเวลาเพียง 1 นาทีว่า อาจจะเอาไปทำอะไรได้ อย่างเช่น ฉีดเข้าร่างกายก็เหมือนไปล้างเชื้อ คุณก็เห็นว่า มันเข้าไปในปอดและทำลายปอด มันก็น่าสนใจนะถ้าจะลองทำดู"
21 พ.ค. ในระหว่างเยือนโรงงานฟอร์ด: "ผมก็สวมหน้ากากนะตอนอยู่ข้างในนั้นแต่ผมไม่อยากสวมออกมาตามที่สื่ออยากเห็น"
12 ก.ค. ก่อนที่จะสวมหน้ากากต่อหน้ามวลชนเป็นครั้งแรก: "เมื่อคุณอยู่ในโรงพยาบาลโดยเฉพาะในเวลาที่คุณต้องพูดคุยกับทหารจำนวนมากที่มีบางคนเพิ่งออกจากห้องผ่าตัดมา ผมคิดว่า เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะสวมหน้ากาก"
21 ก.ค. ระหว่างการแถลงที่ทำเนียบขาว: "เรากำลังบอกกับทุกคนว่า เวลาที่คุณไม่สามารถที่จะเว้นระยะห่างได้ ให้สวมหน้ากาก ไม่ว่าคุณจะชอบสวมหรือไม่ มันจะมีผลกระทบตามมา เราควรจะทำสิ่งที่เราทำได้ และเราจะใช้มัน หากเราช่วยกันทำมันก็เป็นสิ่งที่ดี"
19 ก.ย. คืนก่อนที่สหรัฐฯจะมีผู้เสียชีวิต 200,000 ราย : "มันแทบจะไม่กระทบต่อคนทั่วไป มันน่ามหัศจรรย์มาก มันกระทบกับคนสูงอายุที่มีโรคประจำตัว เป็นโรคหัวใจและโรคอื่นๆเท่านั้นก็แค่นั้นเอง"
29 ก.ย. ขณะดีเบตกับนายไบเดน "ผมสวมหน้ากากเฉพาะในยามจำเป็น" เขาพูดกระทบไปถึงไบเดนที่มักจะสวมหน้ากากเป็นประจำ "ผมไม่ได้สวมหน้ากากเหมือนเขา (ไบเดน) ทุกครั้งที่พวกคุณเห็นเขา เขาก็ต้องสวมหน้ากากอยู่ เขามักจะพูดในระยะห่างราว 200 เมตรจากคนอื่น และมักจะปรากฏตัวพร้อมหน้ากากที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา"
เมื่อทรัมป์ถูกถามในระหว่างการดีเบตว่า กังวลใจหรือไม่ว่า อาจจะเกิดการระบาดของโควิด-19 ในการพูดปราศรัยหาเสียงของเขา ทรัมป์ตอบว่า "ที่ผ่านมา เราไม่พบปัญหาอะไร มันเป็นที่กลางแจ้ง มันก็มีความแตกต่างตามที่ผู้เชี่ยวชาญเคยบอกไว้ แม้ว่าเราจะมีผู้สนับสนุนจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร" ทรัมป์กล่าว
ที่มา : รอยเตอร์