GRAND ลุยขายคอนโดฯหรูทองหล่อ รอท่องเที่ยวฟื้น ดึงยอดต่างชาติ
แกรนด์ แอสเสท ฯ กระตุ้นยอดขายคอนโดฯหรู ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ มูลค่า 6,000 ล้านบาท ผนึกโรงแรมในเครือ เสริมบริการมาตรฐานโรงแรม พร้อมเปิดผ่อน 0% หนุนลูกค้าคนไทย ขณะต่างชาติ แนวโน้มเริ่มฟื้นตัว ทั้งในกลุ่มธุรกิจโรงแรม และโครงการที่พักอาศัย
นางสาวอัญชลี เลิศสุวรรณรัชต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ สูง 45 ชั้น ' ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ (HYDE Heritage Thonglor)' จำนวน 311 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง บริเวณทำเล ใกล้สถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส ทองหล่อ ราว 250 เมตร โดยเป็นการพัฒนาร่วมทุน ระหว่างบริษัทถือหุ้น 40%, บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 11% และบริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ อันดับ 1 ใน 5 ของประเทศญี่ปุ่น ถือหุ้น 49% มีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงปี 2565 ในราคาเฉลี่ย 300,000 บาทต่อตารางเมตรนั้น
ล่าสุดบริษัทได้ร่วมมือกับ Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมในเครือ เพื่อจะเข้ามาบริหารโครงการดังกล่าวแบบ On-Demand Service บนพื้นที่ส่วนกลางเต็มรูปแบบมากถึง 8 ชั้น มีพื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร กับ 28 ฟังก์ชั่น
ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการ มียอดขายแล้วประมาณ 45% และคาดว่าในช่วงปลายปี 2564 ยอดขายจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 60-70% โดยบริษัทจะเน้นขายลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง อย่างไรก็ตาม ยอดขายราว 30% ยังมาจากลูกค้าต่างชาติ เช่น ไต้หวั่น ฮ่องกง และญี่ปุ่น ส่วนที่เหลือเป็นลูกค้าคนไทย
ซึ่งสะท้อนว่า โครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ในย่านทองหล่อ ยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ จากเป้าหมาย ซื้อไว้เพื่อการอยู่อาศัยในระยะยาว รวมถึงกลุ่มนักลงทุน ที่แสวงหาผลตอบแทนและมูลค่าที่จะสูงขึ้นในอนาคตด้วย
ขณะเดียวกัน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เคยส่งผลกระทบให้การขายชะลอตัวลงไปบ้าง ทั้งการขายให้กับลูกค้าชาวต่างชาติและลูกค้าชาวไทย แต่หลังจากปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 เริ่มทยอยคลี่คลายลงนั้น คาดว่า การขายจะกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะการขายให้กับกลุ่มลูกค้าคนไทย ที่คาดว่าจะเข้ามาซื้อมากขึ้นในช่วงปลายปี 2564 นี้ เพราะแนวโน้มของเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวชัดเจน
ซึ่งหากมีการเปิดเมืองและเริ่มเปิดประเทศแล้ว ความมั่นใจของลูกค้าชาวไทยจะกลับมาดีขึ้นด้วย ส่งผลบวกต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าระดับบน รวมถึงความต้องการในกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่จะกลับมาคึกคักด้วย ทั้งนี้ ล่าสุด โครงการได้เข้าร่วมในโครงการของ ไทยแลนด์ อีลิท ประเภทบัตร Elite Flexible One ซึ่งคาดว่า จะสามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 30 % จากเป้าหมายยอดขายรวมที่วางไว้ ณ สิ้นปี 2564
" ตั้งแต่รัฐบาลเริ่มฉีดวีคซีนโควิด -19 เข็มแรก ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจ แม้ยังไม่มั่นใจถึงความรวดเร็วในการกระจายวัคซีน แต่สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คาดว่า ทั้งกลุ่มลูกค้าไทย และต่างชาติ จะค่อยๆกลับมา ยิ่งมีการเปิดประเทศ จะเป็นการพลิกฟื้น แบบ Pick-up เพราะแม้ติดเงื่อนไข แต่ลูกค้าต่างชาติ ยังติดต่อเข้ามาซื้อ เช่น ชาวไต้หวัน เพราะเชื่อมั่นในแบรนด์ และผู้พัฒนาฯ ซึ่งเป็นอสังหาฯเบอร์ใหญ่ของญี่ปุ่น คาดไม่เกินปีหน้า ตลาดบน จะกลับมาฟื้นแบบพุ่งสุดตัว ก่อนค่อยๆเติบโตแบบคงที่ "
ขณะเดียวกัน บริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC โดยการมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าผู้ถือบัตร KTC ถึง 2 ต่อ ประกอบด้วย ต่อที่ 1 เงินจองและทำสัญญา สามารถผ่อนชำระได้ 0% ยาวนานถึง 10 เดือน ซึ่งลูกค้าไม่ต้องชำระค่าใช้จ่ายเป็นเงินก้อน ไปจนถึงระยะเวลาใกล้เคียงในการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดช่วงต้นปี 2565 และต่อที่ 2 “จองเท่าไหร่ ได้เท่านั้น” เพียงรูดเงินจองห้องชุดด้วยบัตร KTC ลูกค้าจะได้รับบัตรกำนัลเงินสดสูงสุด 100,000 บาท สำหรับใช้บริการที่โรงแรมทั้ง 5 แห่งในเครือ GRAND
สำหรับธุรกิจโรงแรมนั้น โดยแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการดูแลพอร์ตโรงแรมของ บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันยอดจองโรงแรมในทำเลหลัก กทม.-หัวหิน ยังเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศ หลังจากไทยยังไม่สามารถเปิดประเทศได้ ซึ่งอัตราการเข้าพักมีแนวโน้มดีขึ้น หลัง ช่วงคลายล็อกดาวน์ ในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกแรก ก่อนกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง เมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปี 2563 ที่ผ่านมา
แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในช่วงปี 2565-2566 ตลาดท่องเที่ยว และธุรกิจโรงแรม จะฟื้นกลับมา เนื่องจาก ประเทศไทย ยังเป็นเมืองเป้าหมายในการท่องเที่ยวสำคัญของต่างชาติ ทั้งในแง่จุดเด่น เรื่องแหล่งท่องเที่ยว อาหารและ วัฒนธรรม
"แม้จะยังไม่สามารถเปิดประเทศได้ แต่โรงแรมในเครือทุกแห่ง ไม่ได้หยุดทำการตลาด โดยพบว่า นักท่องเที่ยวทั้งในสิงคโปร์ และ ฮ่องกง ต่างอยากเดินทางเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะหนุนให้การท่องเที่ยว และอัตราการเข้าพักกลับมาฟื้นตัวได้เร็วในระยะข้างหน้า "
ทั้งนี้ ปัจจุบัน แกรนด์ แอสเสทฯ มีโรงแรมในเครือรวม 5 แห่ง ได้แก่ เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท, เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา, เชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า, รอยัลออคิด เชอราตัน และ ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท