ระวังภัย! COVID-19 ระลอกใหม่

02 มี.ค. 2564 | 00:30 น.

ระวังภัย COVID-19 ระลอกใหม่ : คอลัมน์ เมียงมอง เมียนมา โดยกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

เหตุการณ์วิกฤติการเมืองในเมียนมา เราอาจจะมองแต่เพียงผลกระทบจากเหตุการณ์เดินขบวนประท้วงอารยะขัดขืนของ CDM ซึ่งแน่นอนว่าได้ส่งผลกระทบทั้งระยะสั้น กลาง ยาว สามระยะแล้วครับ แต่สิ่งที่เราไม่ได้มองคือผลที่จะตามมาจากภัยมืดของเจ้าวายร้ายผีน้อย COVID-19 ระลอกใหม่ที่น่าจะมีโอกาสสูงมาก และอาจจะคืบคลานเข้ามาสู่ประเทศไทยทางฝั่งชายแดนก็เป็นไปได้ ผมจึงขออนุญาตนำคำเตือนนี้ ส่งมาให้เพื่อนๆที่ชายแดนโปรดระมัดระวัง อย่าได้ชะล่าใจเป็นอันขาดนะครับ

หลายท่านอาจจะไม่ได้สังเกตุดูการประท้วงของกลุ่ม CDM ที่หลายๆเมืองในประเทศเมียนมา หากท่านใช้ความเป็นคนช่างสังเกตุนิดหนึ่ง ท่านก็จะเห็นผู้คนในกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนไม่น้อย ที่ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยกัน แน่นอนว่าเจลล้างมือย่อมไม่มีด้วยเช่นกัน เพราะทุกคนต่างใจจดใจจ่ออยู่กับการประท้วง คงจะไม่สามารถมาดูแลสุขอนามัยได้ดีหรอกครับ และหากจะดูจากผลที่ทางสถานฑูตไทยประจำประเทศเมียนมาที่ส่งมาให้ทุกวัน จะเห็นว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่น้อยมากๆๆ ซึ่งน่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจัดการได้ดีขนาดนั้น

เรามาดูจำนวนผู้ติดเชื้อกันนะครับ 

ผลของการไม่ระมัดระวังตัวของผู้ประท้วง ก็จะเป็นเหตุและปัจจัยที่จะทำให้เกิดการระบาดอย่างหนักในประเทศเมียนมาอีกรอบ และหากเราสังเกตุดูจากตารางด้านบนนี้ จะเห็นว่าทางการของเมียนมาไม่ได้ให้ตัวเลขจำนวนผู้ที่เขาตรวจหาเชื้อ จึงน่าจะเชื่อได้ว่า การตรวจหาเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ เขาคงจะไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ จากเดิมเขาตรวจวันละประมาณหมื่นห้าพันราย แต่ว่าตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ทางการสาธารณสุขของเมียนมา ไม่ได้มีการประกาศตัวเลขของผู้ที่ได้รับการตรวจหาเชื้อเลย ผมจึงอนุมาณว่า เขาอาจจะไม่ได้ทำการตรวจหาอย่างเข้มข้นแน่นอน นี่เป็นเหตุผลและปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผมไม่อยากจะเชื่อถือผลการประกาศข้างบนนี้เลย

อีกเหตุผลและปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผมกังวลใจ หลังจากมีวิกฤติที่เกิดขึ้น ทำให้โรงพยาบาลต่างๆที่อยู่ตามหัวเมืองใหญ่ ได้หยุดทำการไปประมาณ 30%  การนำเข้าวัคซีนทั้งหมด 3 ล้านโด๊สจากอินเดียเพื่อฉีดให้แก่ประชาชนเมียนมา แต่เป็นเพราะเหตุของความไม่สงบ ทำให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพที่มีอยู่ วันนี้ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วเพียง 103,000 โด๊สเท่านั้น คิดเป็นเพียง .019 เปอร์เซนต์ต่อประชากรทั้งหมดของประเทศ (ประชากรที่ไม่มีสัญชาติและไม่มีชื่อในสัมโนประชากรของชาติยังอีกมากที่ไม่ได้ถูกนับรวมในนี้) ดังนั้นจะพอประมาณผลสำเร็จในการรับมือกับเจ้าโรคร้ายนี้ได้ว่า ไม่น่าจะมีประสิทธิภาพดีได้สักแค่ไหนครับ  

อีกเหตุผลและปัจจัยหนึ่ง  ที่จะทำให้เป็นเหตุระบาดของCOVID-19 ระลอกใหม่นี้ได้ คือการส่งตัวผู้หลบหนี้เข้ามาทำงานจากประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจังหวัดสมุทสาคร ที่มีการส่งกลับไปจำนวนไม่น้อย นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดที่มหาชัยเป็นต้นมา การส่งแรงงานผิดกฎหมายกลับไปที่ประเทศเมียนมา โดยผ่านช่องทางอำเภอแม่สอด-เมืองเมียวดีนั้น เท่าที่ผมทราบมาไม่ได้มีการคัดกรองอย่างละเอียดก่อนส่งตัวกลับ อีกทั้งไม่ได้มีการกักกันคัดแยกเอาผู้ที่ติดเชื้อมารักษาให้หายก่อน แล้วค่อยส่งกลับ ผมได้มีโอกาศพูดคุยกับคุณหมอเมียนมาท่านหนึ่ง ซึ่งท่านได้ร้องขอให้ผมช่วยจัดหาอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อ COVID  และท่านได้มาสร้างศูนย์กักกันตัวที่เมืองเมียวดี ด้วยจิตอาสา เสียเงินเสียทองหมดไปเยอะมาก ทางการเมียนมาเองก็ช่วยสนับสนุนเม็ดเงินงบประมาณเพียงบางส่วนเท่านั้น ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ที่ถูกส่งกลับชาวเมียนมายากลำบากมาก จากประสบการณ์ตรงของผม ผมเองก็มีลูกน้องที่เป็นชาวเมียนมา ที่เดินทางจากกรุงเทพฯกลับไปทางด่านนี้มาแล้ว ก็เล่าให้ผมฟังว่าลำบากแค่ไหน แต่ที่สำคัญคุณหมอท่านนี้ไม่มีงบประมาณพอที่จะซื้อหาเวชภัณฑ์ชุดตรวจหาเชื้อมาให้บริการแก่ผู้ที่ถูกส่งตัวกลับอีกแล้ว ทำให้วันนี้ผมไม่แน่ใจว่า เขาจะไม่นำพาเอาเจ้าเชื้อวายร้ายผีน้อย COVID-19 ไปแพร่ระบาดต่ออีกหรือไม่

อีกปัจจัยหนึ่งที่เห็นชัดๆ คือโรงพยาบาลที่เมืองที่ติดกับชายแดนกับประเทศไทย เช่นที่เมืองท่าขี้เหล็กสามแห่ง ที่เมืองเมียวดีสองแห่ง ยังเปิดทำงานได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นเมื่อมีผู้ที่ติดเชื้ออยู่ข้างบ้านเรา ภาระจึงบังเกิดกับบุคลากรทางการแพทย์ไทยตามชายแดนอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ผมก็ไม่แน่ใจว่างบประมาณที่แพทย์ชายแดนเคยตั้งงบและขอสนับสนุนไปตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ได้อนุมัติแล้วหรือยัง? แต่เท่าที่ผมทราบมา เพิ่งเข้าสู่การพิจารณาเมื่อปลายอาทิตย์ที่ผ่านมาแค่นั้นเอง จึงไม่ทราบว่าทางการเราได้อนุมัติแล้วเสร็จไปแล้วหรือยัง? ก็น่าเห็นใจคนทำงานนะครับ

จากเหตุผลและปัจจัยทั้งหมดทั้งมวล จึงทำให้เชื่อได้ว่า ประเทศเมียนมาหลังจากสงบลง (โดยที่เราไม่สามารถรู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่) ผลที่จะตามมาที่เป็นไปได้อย่างสูง คงหนีไม่พ้นจากการระบาดครั้งมโหฬารอีกครั้งของเจ้าวายร้ายผีน้อย COVID-19 ระลอกใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย ประเทศไทยเราเองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ตามจังหวัดชายแดน 10 จังหวัด ที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา และจังหวัดที่มีแรงงานเมียนมาเข้มข้นเยอะมากๆ รวมทั้งจังหวัดที่มีสังคมเมืองสูง ต้องให้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ อย่าได้ชะล่าใจการ์ดตกไม่ได้เป็นอันขาด นั่นคือหายนะที่เรามองไม่เห็นกำลังคืบคลานเข้ามาหาเรานะครับ ผมเตือนมาด้วยความรักและห่วงใย ไม่มีเจตนาร้ายใดๆนะครับ