28 ตุลาคม 2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนภายหลังการประชุม ครม.วันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า การที่รัฐบาลได้เสนอให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญถือว่าเป็นประโยชน์จาก 2 วันที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนว่าในภาพรวมมีการนำเสนอความคิดความอ่านในทางที่สร้างสรรค์ ท่านประธานรัฐสภาทำหน้าที่ในการควบคุมการประชุมได้เป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งผลการเปิดสมัยวิสามัญและมีการพิจารณามติ มาตรา 165 ในการรับฟังความเห็นโดยไม่มีการลงมติ ถือว่า มีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อสถานการณ์ ทั้งนี้ นายจุรินทร์ได้ให้ความเห็นว่า มีอย่างน้อย 2 เรื่องที่มีความชัดเจนขึ้น
เรื่องที่หนึ่ง เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกฝ่ายดูเหมือนจะเห็นสอดคล้องต้องกันแล้วว่าควรจะได้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งคงเหลือเพียงประเด็นเดียวที่คิดว่าท่านประธานรัฐสภาก็จะได้สอบถามความเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง เช่น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน และสมาชิกวุฒิสภา เป็นต้น ถึงความเห็นที่จะให้พิจารณา 6 ร่างไปก่อนหรือจะให้รอร่างของ ไอลอว์ แล้วมาพิจารณาพร้อมกันทีเดียว ซึ่งหากรอร่างของ ไอลอว์ ก็ต้องพิจารณาหลังวันที่ 12 พฤศจิกายน ซึ่งเชื่อว่าก็คงจะได้คำตอบในเร็วๆนี้ และเมื่อได้คำตอบแล้วก็คงจะมาประกอบการพิจารณาในการที่จะบรรจุระเบียบวาระเข้าสู่การประชุมต่อไปเพื่อพิจารณาในวาระที่หนึ่งขั้นรับหลักการ แต่สำคัญที่สุดที่เป็นผลลัพธ์ก็คือทุกฝ่ายดูเหมือนจะเห็นพ้องต้องกันแล้วเรื่องการแก้ไขและธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น
เรื่องที่สอง เรื่องที่จะเห็นควรให้มีการตั้งคณะกรรมการ ที่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะใช้ชื่อว่าอะไร แต่ก็ได้เสนอไปว่าเป็นกรรมการ 7 ฝ่าย ซึ่งจะประกอบด้วยมากกว่านั้นหรือน้อยกว่านั้นก็สุดแล้วแต่ แต่คณะกรรมการนี้ก็ถือว่าได้รับการขานรับจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาตลอด 2 วันที่ผ่านมา โดยจะมาทำหน้าที่ในการแสวงหาทางออกให้กับประเทศถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมอีกข้อหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯเผย ครม.เห็นชอบตั้ง "คณะกรรมการหาทางออกประเทศ"
ภาคธุรกิจห่วงชุมนุมการเมืองยกระดับอาจทำศก.แย่ลง
เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม คณะราษฎร 2563
โซเชียลติดแฮชแท็ก#บิณฑ์บรรลือฤทธิ์ ทั้งถล่มและชื่นชม
ส่วนรูปแบบที่ออกมาจะเป็นอย่างไรนั้นก็จะอยู่ที่ดุลพินิจของท่านประธานรัฐสภา และคาดว่าท่านคงนำความเห็นของผู้อภิปรายที่เสนอเรื่องนี้ และรวมทั้งความเห็นของตนด้วยในฐานะผู้แทนพรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปร่วมการประกอบการพิจารณา เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเป็นประโยชน์จากการประชุม 2 วัน ที่ได้ข้อสรุปที่มีความชัดเจนอย่างน้อย 2 เรื่อง
สำหรับกรอบเวลาในการตั้งคณะกรรมการขึ้นจะใช้เวลานานเท่าใดนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า คิดว่าเป็นเรื่องที่ประธานรัฐสภาอาจจะมอบหมายให้คณะที่ปรึกษาหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปเป็นต้นเรื่องมา อาจจะเป็นอย่างนั้น เพื่อประกอบการพิจารณาของท่านต่อไป แต่ตอนนี้ถือว่าที่ประชุมรัฐสภาก็มีความเห็นว่าเมื่อท่านประธานรัฐสภาได้รับไปแล้วก็น่าจะดำเนินการได้มีผลปรากฏออกมาในเวลาอีกไม่นาน
สื่อถามถึงเรื่องการทำประชามติว่าได้มีการพูดคุยในที่ประชุม ครม. หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่มีการพูดกัน มีแต่เรื่องการพูดกันในที่ประชุมรัฐสภา ประเด็นใดก็ตามถ้ามีกรรมการชุดนี้ขึ้นมาแล้วก็สามารถที่จะหยิบยกขึ้นมาพูดในคณะกรรมการได้อยู่แล้วเพื่อหาความเห็นพ้อง อย่างที่ได้เรียนไว้เป็นหลักการ อะไรที่เห็นร่วมกันฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ที่จะต้องไปทำก็สามารถรับไปดำเนินการได้ ส่วนอะไรที่ยังเห็นต่างก็คุยกันต่อไปบนพื้นฐานของความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง อาจจะมีความเห็นตรงกันเพิ่มเติมขึ้นมาก็รับไปทำต่อ อะไรที่ยังเห็นไม่ตรงกันก็คุยกันต่อไปได้
“ท่านนายกก็ขอบคุณที่ทุกฝ่ายช่วยกันในการอภิปรายในสองวันที่ผ่านมา ส่วนไหนที่เกี่ยวกับคณะรัฐมนตรีที่จะต้องไปมีส่วนร่วม ก็เป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีและรัฐบาลที่จะต้องเป็นผู้ที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในนั้นต่อไป
ส่วนคณะกรรมการ 7 ฝ่ายจะมีรูปร่างชัดเจนอย่างชัดเจนอย่างไรนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่าตนไม่สามารถตอบได้ เพราะตอนนี้ถือว่าท่านประธานสภาเป็นผู้รับไปดำเนินการแล้วต้องเรียนถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากท่านต่อไป แต่ก็ไปเป็นเรื่องน่ายินดีทุกฝ่ายก็รับข้อเสนอเรื่องการให้มีคณะกรรมการ
ส่วนคำถามว่า มีกังวลหรือไม่ที่ฝั่งไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล อาจจะไม่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่อยากให้ตีตนไปก่อนไข้ ขอให้ทั้งหมดออกมาเป็นรูปเป็นร่างก่อน ตนยังมองในแง่บวกว่าทุกฝ่ายน่าจะให้ความร่วมมือกันด้วยดี