ในการแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) นาย โอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีด้านดิจิทัล วัฒนธรรม สื่อและการกีฬาของอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษ ได้ตัดสินใจ ห้ามการใช้อุปกรณ์ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ในเครือข่ายโทรศัพท์มือถือระบบ 5 G ของอังกฤษ อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคง นอกจากนี้ ยังกล่าวอ้างถึงความเคลื่อนไหวของสหรัฐก่อนหน้านี้ โดยสหรัฐมีคำสั่งคว่ำบาตรหัวเว่ยในเดือนพ.ค. แสดงให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นต่อความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย
การตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษในครั้งนี้ถือเป็นการกลับลำจากมติที่เคยมีก่อนหน้า ซึ่งอนุญาตให้หัวเว่ยมีบทบาทที่จำกัดในเครือข่ายการสื่อสารระบบ 5G ของอังกฤษ
ทั้งนี้ รัฐบาลนานาประเทศได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทหัวเว่ยและรัฐบาลจีน โดยรัฐบาลประเทศที่ตัดสินใจคว่ำบาตรเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย ส่วนใหญ่กล่าวหาว่ารัฐบาลจีนอาจทำการจารกรรมข้อมูลโดยผ่านทางอุปกรณ์ด้านการสื่อสารของบริษัทหัวเว่ยที่ผู้ก่อตั้งเป็นอดีตบุลคลากรในกองทัพของจีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำหรับกรณีของอังกฤษ การตัดสินใจล่าสุดที่ประกาศออกมานั้น หมายถึงอังกฤษสั่งห้ามบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในประเทศ ซื้ออุปกรณ์เครือข่ายระบบสื่อสารแบบไร้สายในยุคที่ 5 (5G) จากหัวเว่ยตั้งแต่ 1 ม.ค. ปีหน้า(2564) เป็นต้นไป นอกจากนี้ รัฐบาลอังกฤษยังสั่งให้บริษัทเหล่านี้ถอดอุปกรณ์ 5G ของหัวเว่ยที่ติดตั้งไปแล้วทั้งหมดออกจากเครือข่ายภายในปี 2027 (พ.ศ. 2570)
นายดาวเดนยอมรับว่า การตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้การเริ่มใช้ระบบการสื่อสาร 5G ของประเทศอังกฤษต้องล่าช้าออกไปอีก 1 ปี และอาจทำให้เกิดความเสียหายมูลค่ารวมถึง 2 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 8 หมื่นล้านบาท "นี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย แต่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งสำหรับเครือข่ายโทรคมนาคมของอังกฤษ สำหรับความมั่นคงของชาติ และเศรษฐกิจของเราในปัจจุบันและในระยะยาว"
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้ออกกฎระเบียบสกัดไม่ให้บริษัททั่วโลก นำเครื่องจักรหรือซอฟต์แวร์ที่ผลิตในสหรัฐฯ ไปใช้เพื่อการออกแบบหรือผลิตชิปให้กับหัวเว่ยหรือบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ในเครือ โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้ในเดือน ก.ย. นี้
สื่อต่างประเทศระบุว่า คำสั่งของสหรัฐดังกล่าว ส่งผลให้ศูนย์ความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติของอังกฤษทำการตรวจสอบและทบทวนการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยจากเหตุผลด้านความเสี่ยงด้านความมั่นคง
อย่างไรก็ตาม การคว่ำบาตรของสหรัฐมีผลบังคับใช้เฉพาะกับอุปกรณ์ในอนาคตเท่านั้น ดังนั้น รัฐบาลอังกฤษจึงไม่ได้สั่งถอดอุปกรณ์ 2G, 3G และ 4G ของหัวเว่ยที่เคยใช้งานมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การตัดสินใจล่าสุดของอังกฤษ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยในตลาดอังกฤษ แต่จะมีผลต่อการใช้อุปกรณ์บรอดแบนด์ของบริษัท
ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้ออกมาแถลงหลังรับทราบการตัดสินใจของอังกฤษว่า การตัดสินใจดังกล่าว ทำให้อังกฤษได้ร่วมเป็นหนึ่งในหลายประเทศทั่วโลกที่ยืนหยัดเพื่อความมั่นคงของประเทศ ด้วยการห้ามใช้อุปกรณ์จากหัวเว่ย ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเสี่ยงสูงและไม่น่าไว้ใจ
ทั้งนี้ จากรายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐพบว่า นานาประเทศทั่วโลกที่ร่วมแบนหัวเว่ยจากโครงข่าย 5G แล้วนั้น ได้แก่ สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก โปแลนด์ โรมาเนีย และสวีเดน ส่วนบริษัทเอกที่เป็นผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร และแสดงท่าทีไม่เอาเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย ได้แก่ บริษัทนิปปอน เทเลกราฟ และเทเลโฟน คอร์ป จากญี่ปุ่น รวมทั้งผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ในอินเดีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้
โฆษกของหัวเว่ยกล่าวถึงท่าทีล่าสุดของอังกฤษว่า เป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทุกคนในอังกฤษ และสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้อังกฤษหล่นไปอยู่ในช่องทางดิจิทัลที่เชื่องช้า มีค่าบริการที่สูงขึ้น และเพิ่มความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลมากขึ้น เชื่อว่า การตัดสินใจของอังกฤษครั้งนี้น่าจะมีปัจจัยทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิทธิพลจากสหรัฐ ซึ่งกำลังเจรจาทำข้อตกลงการค้ากับอังกฤษหลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกมาจากกลุ่มสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) รวมถึงการที่อังกฤษเองต้องเผชิญหน้ากับจีนในกรณีที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงฉบับใหม่เมื่อเร็ว ๆนี้
ข้อมูลอ้างอิง
Oliver Dowden's statement on telecoms to the House of Commons on 14 July 2020
Huawei to be stripped from UK's 5G network by 2027, Oliver Dowden confirms