ผลการสำรวจของสำนักข่าว CNBC สื่อใหญ่ของสหรัฐ พบว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะ คงอัตราดอกเบี้ย ที่ระดับ 0.00-0.25% และจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจนกว่าจะถึงปี 2566
ผลการสำรวจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ได้ประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อเดือนที่แล้ว โดยเฟดจะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% แทนที่จะกำหนดเป้าหมายตายตัวที่ 2% ส่งผลให้เฟดมีแนวโน้มน้อยลงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่ออัตราว่างงานลดลง ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อไม่ได้ดีดตัวขึ้น
ผลการสำรวจพบว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จากจำนวน 37 รายที่ถูกสำรวจ เชื่อว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้ว่าเงินเฟ้ออยู่เหนือระดับเป้าหมาย 2% ขณะที่นักวิเคราะห์ 45% ระบุว่า เฟดจะปล่อยให้เงินเฟ้ออยู่เหนือระดับเป้าหมายเป็นเวลา 6-12 เดือนโดยไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ 41% ยังเชื่อว่าเฟดจะปล่อยให้เงินเฟ้ออยู่เหนือระดับเป้าหมายเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 12 เดือน
การสำรวจยังชี้ว่า นักวิเคราะห์มากกว่า 50% เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้ผ่านพ้นภาวะถดถอยแล้ว โดยภาวะถดถอยได้สิ้นสุดลงในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัว 2.6% ในปีนี้ ซึ่งดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ค.ที่ระบุว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 4.5%
โดยรวมแล้ว นักวิเคราะห์ 69% ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัวรวดเร็วกว่าที่พวกเขาเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เฟดลงมติปรับยุทธศาสตร์นโยบายการเงิน