ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาประกาศวานนี้ (6 ต.ค.) ว่า เขาได้สั่งการให้คณะบริหารของทำเนียบขาวระงับการเจรจาเกี่ยวกับการออก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ กับพรรคเดโมแครต ไปจนถึงหลัง วันเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.
"ผมได้สั่งการให้คณะบริหารของผมระงับการเจรจาไปจนถึงหลังวันเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อผมชนะการเลือกตั้ง เราก็จะผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ทำงานหนัก และภาคธุรกิจขนาดเล็ก" ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันอังคาร (6 ต.ค.) ตามเวลาสหรัฐ
การตัดสินใจดังกล่าวของปธน.ทรัมป์มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากสหรัฐยังคงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น มิฉะนั้นจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ทรัมป์” ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ลั่นพร้อมลุยศึกเลือกตั้ง
อัพเดตอาการ “ทรัมป์” ป่วยโควิด : "ยังไหว"
ข่าว “ทรัมป์ติดโควิด” ทำสมาชิกครม. ยันคองเกรสนั่งไม่ติด
"ในทางตรงกันข้าม จะมีความเสี่ยงน้อยมากจากการกระตุ้นเศรษฐกิจมากเกินไป โดยหากเจ้าหน้าที่ดำเนินนโยบายมากกว่าที่จำเป็น สิ่งนี้ก็จะไม่สูญเปล่า การฟื้นตัวจะแข็งแกร่งและรวดเร็วขึ้น หากมีการใช้นโยบายการเงินและการคลังควบคู่กันเพื่อพยุงเศรษฐกิจให้พ้นจากภาวะวิกฤต" นายพาวเวลล์กล่าวต่อสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) เมื่อวานนี้ (6 ต.ค.)
ประธานเฟดยังกล่าวด้วยว่า แม้ขณะนี้จะมีความคืบหน้าในการสร้างงาน และกระตุ้นการบริโภค แต่ผู้กำหนดนโยบายยังคงต้อง “เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป” มิฉะนั้นจะส่งผลให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างอ่อนแอ และส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน
ที่ผ่านมา เฟดได้ใช้มาตรการทางการเงินเพื่อเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% และอัดฉีดเม็ดเงินและสภาพคล่องจำนวนมากเข้าสู่ตลาด แต่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสยังคงมีความขัดแย้งกันในการออกมาตรการทางการคลังครั้งใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่มาตรการเดิมได้หมดอายุลงเมื่อไม่นานมานี้
ทั้งนี้ การตัดสินใจระงับการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจงวดใหม่ของปธน.ทรัมป์ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กำลังพยายามเดินหน้าเจรจาต่อรองกันเกี่ยวกับวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ดังกล่าวเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่คณะบริหารของทำเนียบขาวเสนอวงเงิน 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ แนวโน้มการเจรจายังคงให้ความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันได้ในเร็ว ๆนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องมาสะดุดด้วยการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์
ข้อมูลอ้างอิง
Trump says he’s calling off stimulus negotiations with Democrats ‘until after the election’