นางมาร์กาเร็ต คีแนน วัย 90 ปีจากเมืองเอ็นนิสคิลเล็นในไอร์แลนด์เหนือ ได้เป็นประชาชนคนแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิดของบริษัท ไฟเซอร์ (Pfizer) จากสหรัฐอเมริกาที่ร่วมวิจัยกับบริษัท ไบออนเทค (BioNTech)จากเยอรมนี คีแนนได้รับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลแห่งมหาวิทยาลัยโคเวนทรี เธอกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับสิทธิพิเศษได้เป็นคนแรกที่ได้ฉีดวัคซีนนี้
นอกจากนี้ คีแนนแล้ว ยังมีชาวอังกฤษกลุ่มแรกอีกจำนวนหนึ่งที่จะได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิดจากโรงพยาบาลหรือศูนย์การแพทย์จำนวนประมาณ 70 แห่งทั่วประเทศ โดยบุคคลกลุ่มแรกที่จะได้รับการฉีดวัคซีนคือผู้สูงวัยอายุ 80 ปีขึ้นไปและบุคลากรการแพทย์ที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 เป้าหมายก็เพื่อให้การป้องกันบุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากโควิด-19 มากที่สุด และเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขได้อย่างไวที่สุด
สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ รายงานว่า วันประเดิมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนนอกโครงการทดสอบนี้เรียกกันว่า “วี-เดย์” (V-Day) หรือวันเผด็จศึก หรือวันฉีดวัคซีนให้กับสาธารณชนเป็นครั้งแรกของอังกฤษ มีโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศอังกฤษราว 70 แห่งเพื่อให้บริการแก่ประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 67.8 ล้านราย เพิ่มขึ้น 4.9 แสนราย
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมียนมาทะลุหลักแสนแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญเตือนนักลงทุนอย่าเพิ่งแห่ซื้อหุ้นบ.วัคซีนโควิด |
นอกจากนี้ อังกฤษยังเป็นประเทศแรกในโลกที่นำวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์มาฉีดให้กับประชาชนหลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลอาหารและยาของอังกฤษ อนุมัติการใช้วัคซีนดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ที่เคยเป็นผุ้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อต้นปีและได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว ประกาศว่า วันนี้ต้องจารึกว่าเป็นวันแห่งความก้าวหน้าครั้งสำคัญของอังกฤษในการต่อสู้กับไวรัสโคโรน่า อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าการฉีดวัคซีนเป็นกระบวนการที่ยังต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายสัปดาห์และนานนับเดือนกว่าจะดำเนินการได้อย่างครอบคลุมทั่วถึง ดังนั้นเขาจึงอยากย้ำเตือนให้ประชาชนยึดแนวทางปฏิบัติที่เรียกว่า “แผนฝ่าโควิดในช่วงฤดูหนาว” (Covid Winter Plan) อย่างต่อเนื่อง อย่าการ์ดตก และขอให้ยึดแนวทางปฏิบัติพื้นฐานในการป้องกันตัวเองและคนอื่นจากเชื้อโควิด นั่นคือ ล้างมือให้สะอาด ใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่าง
ตัวเลขล่าสุดของรัฐบาลอังกฤษชี้ว่า มีชาวอังกฤษที่ต้องเสียชีวิตเพราะโควิด-19 แล้วจำนวนมากกว่า 60,000 คน ขณะนี้ รัฐบาลอังกฤษได้จัดซื้อวัคซีนต้านโควิดสำหรับฉีดให้กับประชาชนแล้วจำนวน 800,000 โดสพร้อมสำหรับให้บริการ นอกจากนี้ ได้สั่งซื้อแล้วอีก 40 ล้านโดส ซึ่งเพียงพอสำหรับประชาชน 20 ล้านคน (เนื่องจาก 1 คนต้องฉีดวัคซีน 2 โดส) เป็นที่คาดหมายว่า วัคซีนที่สั่งซื้อไว้ส่วนใหญ่จะมีการส่งมอบในปีหน้า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าก่อนสิ้นปีนี้ อังกฤษจะได้รับวัคซีนอีกอย่างน้อย 4 ล้านโดส
ทั้งนี้ หลังจากวันแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีน 11 วันหลังจากนั้นร่างกายจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกัน เมื่อครบ 21 วันนับจากที่ฉีดเข็มแรก ผู้รับการฉีดวัคซีนต้องมาฉีดเข็มที่ 2 จากนั้นคาดว่าจะมีภูมิคุ้มกันอย่างสมบูรณ์ภายในอีก 1 สัปดาห์ หรือในวันที่ 28 นับจากที่ได้ฉีดเข็มแรกไปแล้ว