กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย เปิดเผยในวันนี้ (29 เม.ย.) ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบ ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มอีก 379,257 ราย ซึ่งเป็น ยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุด นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศขณะนี้พุ่งขึ้นเป็น 18,376,524 ราย
ขณะเดียวกัน อินเดียพบผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มอีก 3,645 ราย ซึ่งเป็นการ ทุบสถิติยอดเสียชีวิตรายวันสูงที่สุด เช่นกันนับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตขยับขึ้นแตะ 204,832 ราย
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขอินเดียชี้ว่า ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลหลังได้รับการรักษาจนหายดีแล้วมีจำนวน 15,086,878 ราย ส่วนผู้ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศนั้นมีจำนวนทั้งสิ้น 3,084,814 ราย หรือเพิ่มขึ้น 106,105 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
สื่อต่างประเทศรายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในอินเดียยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ซึ่งทำให้รัฐบาลอินเดียจำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการใหม่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด นอกจากนี้ เมืองหลวงนิวเดลีได้มีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบที่ 2 ไปจนถึงวันที่ 3 พ.ค.นี้
รายงานระบุว่า อินเดียเริ่มโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา และจากวันนั้นจนถึงขณะนี้ มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วประเทศไปแล้วกว่าจำนวนกว่า 150 ล้านราย โดยอินเดียเองเป็นประเทศหนึ่งที่สามารถผลิตวัคซีนต้านโควิดใช้เองภายในประเทศ รวมทั้งสามารถส่งออกวัคซีน แต่จากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นมาก ทำให้รัฐบาลอินเดียตัดสินใจระงับการส่งออกวัคซีนต้านโควิดเป็นการชั่วคราว เพื่อสงวนไว้ใช้ภายในประเทศก่อนจนกว่าวิกฤตจะคลี่คลาย
ขณะนี้ โครงการฉีดวัคซีนของอินเดียดำเนินมาถึงการฉีดให้กับประชาชนทั่วไป โดยอินเดียเริ่มเปิดให้ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถลงทะเบียนทางออนไลน์ เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รอบใหม่ซึ่งจะเริ่มต้นวันที่ 1 พ.ค. นี้ และจะเป็นระยะที่ 3 ของการฉีดวัคซีน
พร้อมกันนี้ รัฐบาลอินเดียได้เพิ่มสถานที่ตรวจเชื้อโควิด-19 ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยข้อมูลจากสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (ICMR) ระบุว่า มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แก่ประชาชนแล้ว 284,471,979 ครั้ง
ทั้งนี้ กรมอนามัยของกรุงเดลีระบุว่า เมืองเดลีซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 25,986 ราย และพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 368 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในกรุงเดลีแตะที่ 15,377 ราย
ในด้านความช่วยเหลือนั้น หลายชาติ ได้แก่ สหรัฐ จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฯลฯ ประกาศจะมอบความช่วยเหลือให้แก่อินเดีย โดยล่าสุดทำเนียบขาวเปิดเผยวานนี้ (28 เม.ย.) ว่า อุปกรณ์การแพทย์เช่นถังออกซิเจนที่กำลังขาดแคลนอย่างหนัก จะถูกจัดส่งถึงอินเดียในวันนี้ (29 เม.ย.) และในสัปดาห์หน้า ประกอบด้วยถังออกซิเจน 1,000 ถัง หน้ากากอนามัย N95 จำนวน 15 ล้านชิ้น และชุดตรวจวินิจฉัยโรคอย่างรวดเร็ว 1 ล้านชุด
นอกจากนี้ สหรัฐยังโอนออเดอร์ (คำสั่งซื้อ)ซื้ออุปกรณ์การผลิตวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าให้แก่อินเดียด้วย ซึ่งจะทำให้อินเดียสามารถผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้มากกว่า 20 ล้านโดส
"สหรัฐจะช่วยเหลืออินเดียเหมือนกับที่อินเดียเคยส่งความช่วยเหลือมายังสหรัฐเมื่อครั้งที่จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ของสหรัฐพุ่งจนล้นโรงพยาบาลในช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาด" แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุ
ขณะที่ประเทศไทยเองโดยความร่วมมือทั้งของภาครัฐและเอกชน ก็ได้ให้ความช่วยเหลืออินเดียฝ่าวิกฤตโควิด-19 ด้วยเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา เครื่องบินซี-17 โกลบมาสเตอร์ 3 ซึ่งเป็นเครื่องบินขนส่งทางทหารขนาดใหญ่ของกองทัพอากาศอินเดีย ได้มาลงจอดที่กรุงเทพเพื่อรับถังออกซิเจนแช่แข็งจำนวน 4 ถังที่ไทยมอบให้ นำกลับไปยังประเทศอินเดียสำหรับใช้ในการขนส่งลำเลียงออกซิเจนซึ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ป่วย และหลังจากนี้ยังจะมีการขนส่งลำเลียงอีกหลายถัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง