สื่อต่างประเทศรายงาน การดำดิ่งของบิตคอยน์ (Bitcoin) สกุลเงินดิจิทัลยอดนิยมที่ดิ่งลง 7.28% สู่ระดับ 36,758.75 ดอลลาร์ ณ เวลา 19.40 น.ตามเวลาไทยวานนี้ (25 พ.ค.) ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
"ผมได้พูดคุยกับกับบรรดาธุรกิจขุดเหมืองบิตคอยน์ในอเมริกาเหนือ พวกเขาให้คำมั่นว่าจะใช้พลังงานสะอาดทั้งในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ พวกเขาจะขอให้เหมืองอื่นๆทำแบบเดียวกันด้วย ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี" นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา ระบุในทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นการย้ำถึงจุดยืนล่าสุดของเขาว่า จะสนับสนุนการทำธุรกรรมด้วยบิตคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล ก็ต่อเมื่อการได้มาซึ่งบิตคอยน์ ที่เรียกว่า “การขุดเหมือง” นั้นไม่สิ้นเปลืองพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ ราคาบิตคอยน์ทรุดตัวลงหลังจากที่นายมัสก์ประกาศงดรับบิตคอยน์ในการซื้อรถยนต์เทสลา โดยอ้างความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการขุดบิตคอยน์ต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลจำนวนมาก
บิตคอยน์เคยทะยานเหนือระดับ 64,400 ดอลลาร์ และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขานรับกับการที่บริษัท คอยน์เบส โกลบัล อิงค์. (Coinbase Global Inc.) ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดในสหรัฐ เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq แต่หลังจากนั้นราคาบิตคอยน์ก็ได้ไหลลงเรื่อย ๆ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเข้าควบคุมตลาดเงินคริปโตของทางการจีนและสหรัฐ
นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และสภาแห่งรัฐของจีน ออกแถลงการณ์เมื่อเร็ว ๆนี้ ระบุว่า ทางการจีนจะเข้ากวาดล้างการทำเหมืองขุดบิตคอยน์ รวมทั้งควบคุมพฤติกรรมการซื้อขายของนักลงทุนเพื่อป้องกันมิให้ความเสี่ยงของปัจเจกบุคคลลุกลามไปสู่สังคมในวงกว้าง เขาย้ำว่าการคุมเข้มบิตคอยน์มีความจำเป็นเพื่อป้องกันระบบการเงินของประเทศจีน
"การกวาดล้างอย่างหนักหน่วงต่อกิจกรรมด้านหลักทรัพย์ที่ผิดกฎหมาย และการลงโทษอย่างรุนแรงต่อกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่จำเป็นในการรักษาความมีเสถียรภาพในตลาดหุ้น ตราสารหนี้ และปริวรรตเงินตราของจีน" แถลงการณ์ของรองนายกฯ หลิว เหอ ระบุ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนได้สั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการใดๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมสกุลเงินคริปโต และเตือนไม่ให้นักลงทุนทำการซื้อขายสกุลเงินคริปโตเพื่อเก็งกำไร
ท่าทีของจีนสอดคล้องกับกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาที่ระบุว่า ทางกระทรวงจะออกมาตรการกวาดล้างตลาดสกุลเงินคริปโต รวมทั้งการทำธุรกรรมในตลาดดังกล่าว ซึ่งหนึ่งในการมาตรการที่มีการนำเสนอคือ หากรายการโอนเงินสกุลคริปโตมีมูลค่าตั้งแต่ 10,000 ดอลลาร์ขึ้นไป จะต้องมีการรายงานไปยังกรมสรรพากรสหรัฐ (IRS)
"สกุลเงินคริปโตได้สร้างปัญหาการตรวจสอบเป็นอย่างมาก โดยมีการสนับสนุนกิจกรรมผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการหลบเลี่ยงภาษี" แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้เสนอเพิ่มงบประมาณ 80,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่ IRS รวมทั้งจะเพิ่มพนักงานเต็มเวลาจำนวนมากกว่า 86,000 อัตราให้แก่หน่วยงานดังกล่าวในช่วง 1 ทศวรรษข้างหน้าเพื่อรับมือกับการเติบโตของสินทรัพย์คริปโต
"ภาคธุรกิจที่รับสินทรัพย์คริปโตที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 10,000 ดอลลาร์ จะต้องรายงานต่อ IRS เช่นเดียวกับเงินสด โดยภายในบริบทของกฎระเบียบการรายงานบัญชีทางการเงินฉบับใหม่นั้น สกุลเงินคริปโต บัญชีแลกเปลี่ยนสินทรัพย์คริปโต และบัญชีการให้บริการด้านการชำระเงินซึ่งมีการรับสกุลเงินคริปโต จะต้องถูกรวมอยู่ภายใต้กฎระเบียบดังกล่าว" กระทรวงการคลังสหรัฐระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง