ความเคลื่อนไหวของ เว่ยป๋อ สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลจีน ยังคงเดินหน้า กวาดล้างบิตคอยน์ หลังจากเมื่อไม่นานมานี้ หน่วยงานของรัฐบาลจีนได้ประกาศห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการใดๆที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกรรมสกุลเงินคริปโต และเตือนไม่ให้นักลงทุนทำการซื้อขายสกุลเงินคริปโตเพื่อเก็งกำไร ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะสกัดความร้อนแรงในตลาดซื้อขาย สกุลเงินดิจิทัล
แถลงการณ์ของสมาคมการเงินอินเทอร์เน็ตแห่งชาติของจีน สมาคมการธนาคารของจีน และสมาคมการชำระหนี้ของจีนระบุว่า เมื่อไม่นานมานี้ ราคาสกุลเงินคริปโตพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงและทรุดตัวลงอย่างหนัก และการซื้อขายเก็งกำไรสกุลเงินคริปโตก็กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินประชาชน และจะส่งผลกระทบต่อความเป็นระเบียบในระบบเศรษฐกิจและการเงินของจีน
นอกจากนี้ ราคาบิตคอยน์ยังได้รับแรงกดดันจากการทวีตข้อความรายวันของนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทเทสลา โดยเมื่อเร็วๆนี้ นายอีลอน มัสก์ ทวีตข้อความสั้นๆว่า #Bitcoin ตามด้วยอิโมจิรูปหัวใจแตกสลาย พร้อมกับโพสต์รูปของคู่รักในบทสนทนาที่ส่อแววว่าจะเลิกรากัน ซึ่งทำให้นักลงทุนตีความว่า นายอีลอน มัสก์ อาจจะเลิกลงทุนในบิตคอยน์
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ราคาบิตคอยน์เคยร่วงลงอย่างหนักหลังจากนายมัสก์ออกมาแจ้งทางทวิตเตอร์ว่า บริษัทเทสลาจะไม่รับบิตคอยน์ในการซื้อรถยนต์แล้ว (หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศจะรับ) โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการขุดบิตคอยน์จำเป็นต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลจำนวนมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง