โลกระส่ำโควิดสายพันธุ์ใหม่ เดลตายังกลายพันธุ์ไม่หยุด หวั่นดื้อวัคซีนเอาไม่อยู่

18 มิ.ย. 2564 | 01:31 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มิ.ย. 2564 | 01:43 น.

WHO หวั่นการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาอาจทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ที่ยากต่อการป้องกัน เนื่องจากมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลาและแพร่กระจายได้ไว ซ้ำมีรายงานว่า อาจเพิ่มอาการใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิม

องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ที่ตรวจพบครั้งแรกในประเทศอินเดีย ได้แพร่ระบาดลุกลามไปใน 80 ประเทศทั่วโลกแล้ว และได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักของการติดเชื้อใหม่ในหลายประเทศรวมทั้งอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันตรวจพบสายพันธุ์ดังกล่าวในผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 60% ขณะที่ในสหรัฐอเมริกา มีการตรวจพบไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นจากเดิม 6% เป็น 10% ในเวลาอันรวดเร็วเพียงข้ามสัปดาห์  

สิ่งที่น่าวิตกเกี่ยวกับไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาคือ มันยังคงมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการแพร่ระบาดไปในต่างประเทศ ทำให้เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่นักวิทยาศาสตร์ยังหวาดหวั่นว่าวัคซีนที่โลกมีอยู่ในขณะนี้ซึ่งพัฒนามาเพื่อใช้ป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมจะมีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกันสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่เกิดจากการกลายพันธุ์หรือไม่

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่าไวรัสรัสโควิดเดลตาสามารถแพร่ระบาดได้ไวกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ของ WHO กำลังเป็นห่วงก็คือ มีรายงานวิจัยบางชิ้นที่ระบุว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาอาจจะทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น แต่เรื่องนี้ยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน

มาเรีย แวน เคอร์คอฟ

มาเรีย แวน เคอร์คอฟ หัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคนิคไวรัสโควิด-19 ของ WHO กล่าววานนี้ (17 มิ.ย.) ว่า WHO กำลังเฝ้าติดตามรายงานเกี่ยวกับไวรัสโควิดกลายพันธุ์ “เดลตาพลัส” (delta plus) ซึ่งหมายความว่ามีการตรวจพบโควิดกลายพันธุ์เพิ่มเติมอีก 1 สายพันธุ์ อย่างไรก็ตาม WHO กำลังติดตามข้อมูลและศึกษาเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของโควิดสายพันธุ์เดลตาอย่างละเอียด

ทั้งนี้ หลังจากที่ WHO ได้ยกระดับไวรัสโควิดเดลตาเป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล (variant of concern) จากเดิมที่เป็นเพียงสายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง (variant of Interest) เมื่อต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ในสหรัฐอเมริกา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ (ซีดีซี)ได้ดำเนินการตามในทิศทางเดียวกันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 มิ.ย.) โดยประกาศให้ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา เป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล หลังจากที่มีการตรวจพบสายพันธุ์ดังกล่าวใน 10% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งเป็นการเพิ่มจากสัดส่วนเพียง 6% ในสัปดาห์ก่อนหน้า

นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี นายแพทย์ใหญ่ที่ปรึกษาของทำเนียบขาวให้ความเห็นไว้ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐไม่อาจปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปในทิศทางเดียวกับอังกฤษที่ซึ่งสายพันธุ์เดลตาครองสัดส่วนผู้ติดเชื้อใหม่มากกว่า 60% แซงหน้าสายพันธุ์อัลฟาซึ่งตรวจพบครั้งแรกในประเทศอังกฤษเองแล้ว “เราต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนจำนวนมากขึ้นโดยเฉพาะในหมู่คนวัยหนุ่มสาว”

โลกระส่ำโควิดสายพันธุ์ใหม่ เดลตายังกลายพันธุ์ไม่หยุด หวั่นดื้อวัคซีนเอาไม่อยู่

นอกจากโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตาพลัสแล้ว WHO ยังเฝ้าจับตาสายพันธุ์ใหม่อีกตัวคือ “แลมบ์ดา” (lambda variant) ซึ่งมีการตรวจพบมากขึ้นในหลายประเทศแถบละตินอเมริกา เช่น ชิลี เปรู เอกวาดอร์ และอาร์เจนตินา WHO จัดให้ไวรัสโควิดแลมบ์ดา อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่ต้องจับตา เนื่องจากมันมีการกลายพันธุ์หลายครั้งในส่วนของสไปค์โปรตีน (spike protein) ซึ่งเป็นโปรตีนตรงส่วนหนามบนผิวของไวรัส และอาจมีผลต่อความสามารถในการแพร่ระบาด โดยมันอาจจะแพร่ขยายได้เร็วขึ้น แต่เรื่องนี้ยังต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาข้อสรุป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง