ประเทศจีนถือเป็นตลาดด้านผลไม้สดจากประเทศไทยที่สำคัญ จากสถิติการส่งออกผลไม้ไทยไปยังประเทศจีนของกรมวิชาการเกษตร พบว่าเดือนมกราคม 2564 - ปัจจุบัน ไทยส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีน มีปริมาณกว่า 2 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 148,000 ล้านบาท โดยปริมาณการส่งออกผลไม้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ทุเรียน ลำไย และมะพร้าวอ่อน ตามลำดับ
แต่จีนมีมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด (Zero Covid) ที่อาจติดมากับการขนส่งสินค้าผ่านห่วงโซ่ความเย็นที่เข้มงวด ส่งผลต่อการบริหารจัดการรถบรรทุกสินค้านำเข้าและส่งออกผ่านด่านโหย่วอี้กวน และด่านตงซิง เขตฯ กว่างซีจ้วง ทำให้ปริมาณรถผ่านเข้าออกลดลงจากเดิมมาก และมีรถติดสะสมหน้าด่านจำนวนมาก ล่าสุดสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง มาอัพเดทกัน
นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี นายกสมาคมผู้ค้าผลไม้และส่งออกผลไม้ไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เป็นสถานการณ์การส่งออกผลไม้ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 20 ปี มีความเด่นชัดแล้วว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษหลวงน้ำทา กระทรวงการลงทุนและการวางแผน ฉบับที่ 593 บ่อเต็น ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2021 ประกาศ เรียน บจก. Laos Boten Economic Zone Development Group(老挝磨丁经济专区开发集团有限公司 ผู้ปฏิบัติงาน พ่อค้า และผู้อยู่อาศัยในเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็น
เรื่อง การปิดทางเข้า-ออกเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นชั่วคราว ระหว่างวันที่ 17-23 ธันวาคม 2564 ตามมติที่ 1971 ของกระทรวงการวางแผนและการลงทุน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2015 ว่าด้วยการจัดองค์กร การ ดำเนินงาน และกิจกรรมของคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษประจำจังหวัดและเทศบาล ตามมตินายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 15 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2021
ตามประกาศที่ออกโดยสำนักงานจังหวัดหลวงน้ำทา ฉบับที่ 734 เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาดระหว่างวันที่ 17-23 ธันวาคม 2021 ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในเขตพิเศษเพื่อบ้องกันและรับประกันว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะไม่แพร่กระจายในเขตพิเศษ คณะกรรมการจัดการเขตเศรษฐกิจพิเศษหลวงน้ำทา
ประกาศจะดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิดสายพันธุ์ใหม่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นตั้งแต่เดือนธันวาคม วันที่ 17 ถึง 23 พ.ศ. 2021 ในช่วงเวลาดังกล่าว บุคลากรจะถูกจำกัดไม่ให้เข้าและออกจากบ่อเต็นโดยเด็ดขาด และจะมีผลบังคับและปฏิบัติตามมาตรการอื่น ๆ โดยเฉพาะ ดังนี้
1. ตั้งแต่วันที่ 17-23 ธันวาคม 2021 การเข้าเขตเศรษฐกิจพิเศษของเมืองจะปิดชั่วคราวเป็นเวลา 7 วัน - ยกเว้นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานบ้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด
- สำหรับเจ้าหน้าที่ท่าเรือที่อาศัยอยู่ในเขตพิเศษ กรุณาส่งรายชื่อบุคลากรให้คณะกรรมการบริหารเขตพิเศษเพื่อรายงานการเข้าออก
2. ในช่วงเวลานี้ สถานประกอบการและสถาบันทั้งหมด เช่น โรงแรม เกสต์ฮาส์ สถานบันเทิง สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ จะยังคงปิดต่อไป
- สำหรับร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ร้านขายผัก ผัก และของใช้ในชีวิตประจำวัน ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคมในระดับสูง
3. ห้ามผู้อยู่อาศัยในเขตเข้าไปในบริเวณด่านตรวจเข้าและออกของเขต
4. ขอให้ทุกคนอยู่บ้าน 7 วัน ตั้งแต่ วันที่ 17-23 ธันวาคม 2021 (ยกเว้นออกไปซื้ออาหาร) และจะดำเนินการตรวจโรคโควิดอีกครั้งที่สองเพื่อประเมินก่อนที่จะชะลอการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด
5. ในช่วงการบ้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด หน่วยธุรกิจ วิสาหกิจ พ่อค้า และบุคคลควรยกเลิกการชุมนุมทุกประเภทของบุคคลจำนวนมากชั่วคราว เช่น ร้านขายเครื่องดื่ม คาราโอเกะ ร้านบาร์บีคิว ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านนวด เป็นต้น จนกว่าการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิดในเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นจะมีเสถียรภาพหรือจนกว่าผู้นำระดับสูงจะให้คำแนะนำและการแจ้งเตือนใหม่
6. ทุกสถานประกอบการ ทุกหน่วยงาน นักธุรกิจ ชาวจีน และผู้สูงวัย โปรดหยุดการชุมนุมเพื่อความบันเทิงชั่วคราว รวมทั้งการติดต่ออย่างใกล้ชิด เช่น การรวมตัว การจับมือ การรวมตัวเป็นกลุ่มเพื่อความบันเทิง ฯลฯ หากคุณต้องการถือประเพณีดั้งเดิมกิจกรรมของคุณต้องปฏิบัติตามระเบียบกรมอนามัยโดยเคร่งครัด ต้องเสริมสร้างการป้องกันและรักษาระยะห่างทางสังคมให้ไกลเกิน 1 เมตร
7. ขอให้บริษัทและเจ้าของธุรกิจทั้งหมดชำระค่าแรงให้พนักงานของบริษัทตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของประเทศลาวก่อนระงับหรือปิดสถานที่ เพื่อหลีกเลี่ยงปรากฏการณ์ทางสังคมเชิงลบในอนาคต
8. ส่งมอบให้กับสำนัก Boten Public Security Bureau (磨丁公安局与老挝) แล บจก. Laos Boten Economic Zone Development Group (老挝磨丁经济专区开发集团有限公司) เพื่ประชาสัมพันธ์ให้ประชานได้รับทราบ และเข้าใจถึงอันตรายและความเสี่ยงของโรคระบาด เพื่อเบ็นการป้องกันตนเอง ครอบครัว และคนอื่น
9. ห้ามมิให้โฆษณาชวนเชื่อ เผยแพร่ข้อมูลเท็จ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ตื่นตระหนก และผลกระทบต่อสังคมผ่านสื่อต่างๆ
10. โดยไม่ได้รับอนุญาต ห้ามมิให้ องค์กร หน่วยธุรกิจ พ่อค้า ผู้อยู่อาศัยในเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็น และบุคคลทั้งในและนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษลักลอบข้าและออกจากเขตพิเศษบ่อเต็น หรือเข้าบ่อเต็นโดยไม่ผ่านด่านที่จัดตั้งขึ้นโดยเขตเศรษฐกิจพิเศษ
- หากพบผู้ฝ่าฝืน บุคคลหรือนิติบุคคลที่ฝ่าฝืนข้อบังคับของประกาศนี้จะถูกปรับและดำเนินการตามมาตรการต่อไปนี้
- หากพบหรือจับได้เป็นครั้งแรก คุณจะได้รับการตักเตือนและมีการจดบันทึก
- หากพบหรือจับได้เป็นครั้งที่สอง ปรับ 1,000,000-5,000,000 กีบลาว/คนครั้ง
-หากพบหรือจับได้เป็นครั้งที่สามจะถูกบรับและดำเนินการตามกฎหมาย หน่วยธุรกิจ ผู้ปฏิบัติงาน พ่อค้า ผู้อยู่อาศัย และหน่วยงานต่างๆ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็น
โปรดทราบและปฏิบัติตามกฎระเบียบข้างต้นอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนกฎระเบียบเหล่านี้ บุคคลหรือนิติบุคคลที่ฝ่าฝืนข้อบังคับจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
11. ส่งมอบให้กับสำนักความปลอดภัยสาธารณะบ่อเต็น ควบคุมและตรวจสอบสถานที่และช่องทางการขนส่งสินค้าต่างๆ และห้ามบุคลากรจังหวัดอื่นหรือบุคลากรที่ไม่จำเป็นเข้าเขตพื้นที่พิเศษในช่วงเวลานี้ หากพบผู้ฝ่าฝืนจะจัดการตามข้อระบุในประกาศนี้
12. ขอให้เจ้าหน้าที่จากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนภายในเขตพิเศษ กำกับดูแลและตรวจสอบบุคลากรที่เข้าและออกจากเขตพิเศษอย่างจริงจัง เพื่อบ้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 และเพิ่มความเคร่งคัดให้กับจุดตรวจเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ขอประกาศ ณ ที่นี้ว่าเราหวังว่าจะดำเนินการอย่างเคร่งครัด! กรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษหลวงน้ำทา (ลงนามในนาม) Bindan Vivansai
นายสัญชัย กล่าวว่า ด่านที่ 2 ที่จะปิดก็คือ "ด่านห้วยทราย" จะประกาศปิดด่าน ในวันพรุ่งนี้ ก็คือ วันที่ 19-26 ธันวาคม เพราะต้องการลดปริมาณรถบรรทุกที่สะสม ลดความแออัด และเป็นมาตรการป้องกันโควิด ซึ่งก็แน่นอนผลไม้จบแล้ว ในตอนนี้ ผลกระทบที่โดนอย่างรุนแรงเป็นสถานการณ์ที่ไทยเผชิญความย่ำแย่ที่สุดในรอบ 20 ปี ในช่วงนี้ก็คือ ลำไยนอกฤดู ราคาถูกกว่าในฤดู เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ รวมทั้งสับปะรดภูแลด้วย
สอดคล้องกับ นายนิโรจน์ แสนไชย อายุ 70 ปี เจ้าของสวนแสนไชย ต. วังผาง อ.เวียงหนองล่อง จ. ลำพูน พื้นที่ 86 ไร่ กล่าวว่า ราคาลำไยไม่ดีเลย หนักสุดเท่าที่ทำสวนมา ในรอบ 50 ปี เป็นปีที่เลวร้ายที่สุด เกรด AA ราคา 10-20 บาท/กิโลกรัม จะต้องได้ราคาไม่ขาดทุนก็ประมาณราคา 30 บาท/กิโลกรัม
เช่นเดียวกับนายเพชร บุญเป็ง ประธานกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด อ.แม่จัน จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ราคาสับปะรดภูแล ตอนนี้ประมาณ ราคา 3-4 บาท/กก. ไม่ได้อะไรเลย เมื่อเดือนที่แล้วจีนปิดด่าน ไม่มีคนซื้อจบเลย แล้วถ้าปิดด่านโควิดอีก เกษตรกรเจ๊งอีกซ้ำรอยเดิม หาคนซื้อได้ยาก ไม่รู้จะไปขายที่ไหน ก่อนหน้านี้เคยปิดแล้ว ต้องทิ้ง
ส่วนราคาสับปะรดปัตตาเวีย ราคาไม่เกิน 3.80 บาท/กิโลกรัม สถานการณ์ก็ย่ำแย่พอกัน ในส่วนโรงงานที่อยู่ใกล้ พนักงานติดโควิด ก็ลดการผลิต พอไปไกลก็โดนกดราคา หรือไปโรงงานอื่นก็ไม่รับ เพราะโควตาเต็ม โดนสารพัด
“มีการพูดคุยกับพาณิชย์จังหวัด ให้ระบายสินค้าไปยังจังหวัดอื่น เห็นราคาที่อื่น สับปะรดภูแล ปอกเสร็จกิโลกรัมละ 200 -300 บาท ออกจากเชียงรายกิโลกรัมไม่ถึง 50-60 บาท เพราะจริงๆ ถ้าชาวสวนขายหน้าสวนได้ 7-8 บาทต่อกิโลกรัม ก็ดีใจตัวลอยแล้ว เพราะค่าเก็บเกี่ยว กิโลกรัมละ 1 บาท ยังไม่รวมค่าต้นทุน ค่าปุ๋ย ค่าสารเคมี โดยเฉพาะราคาปุ๋ยเคมี แพงขึ้นมา 3 เท่าแล้ว
“ในอดีตโรงปอก กำหนดราคาขายให้กับจีน แต่ตอนนี้จีนกำหนดราคาซื้อเอง เพราะว่าโรงปอกทางจังหวัดเชียงรายเกือบครึ่งหนึ่งเป็นของคนจีนหมด แต่ให้คนไทยบริหาร เพราะถ้าคนไทยไม่ขายก็ไปเก็บพื้นที่ที่ตัวเองบางส่วนมีสวนอยู่แล้วก็นำไปขายส่งแทน ถ้ามองภาพไม่ต่างจากล้งผลไม้ ภาคตะวันออก”