นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ครั้งที่ 58 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 ได้พิจารณาเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มลูกจ้างแรงงานที่ถูกบริษัทนายหน้าชักชวนไปทำงานต่างประเทศ ที่ประเทศเยอรมนี และเกาหลีใต้
ทั้งนี้จากการพิจารณาทั้ง 2 เรื่อง พบว่า เรื่องการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศเยอรมนี กรณีนายพิชิตพล เจริญโชติรัศมี ได้สมัครเพื่อไปทำงานกับบริษัท K – Industry Solutions GmbH ตำแหน่งพนักงานท่าอากาศยานขนถ่ายสินค้าและจัดการกระเป๋าบนเครื่องบิน โดยการสมัครผ่าน บริษัทจัดหางาน ซันโกลด์ เทรดดิ้ง จำกัด ที่จังหวัดนครราชสีมา และมีการจ่ายค่าดำเนินการ ค่าอบรมภาษา และค่าตรวจสุขภาพไปแล้วนั้น
จนถึงปัจจุบันนายพิชิตพล ยังไม่ได้เดินทางไปทำงานที่เยอรมนีเลย ในประเด็นนี้ กรมการจัดหางานได้ชี้แจงว่า บริษัทจัดหางาน ซันโกลด์ เทรดดิ้ง จำกัด ได้ดำเนินการผิดกฎหมาย โดยให้เพิกถอนใบอนุญาตจัดหางานของบริษัทฯ และทำการยึดหลักประกันมาเยียวยาผู้เสียหาย
รายละเอียดข้อเท็จจริงกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลของบริษัท พบว่า บริษัทจัดหางาน ซันโกลด์ เทรดดิ้ง จำกัด ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน ถูกต้องตามกฎหมาย และในขณะนี้ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้มีหนังสือถึงกรมการจัดหางาน เพื่อขอให้ตรวจสอบ และพิจารณาบริษัทฯ ดังกล่าวว่ามีความผิดตามกฎหมายอย่างใดหรือไม่
สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร
“บริษัทจัดหางาน ซันโกลด์ เทรดดิ้ง จำกัด ได้ชี้แจงกับคณะกรรมาธิการว่า ผู้ร้องเรียน ได้เสนอเรื่องเพียงแจ้งความประสงค์ในการสมัครงานเท่านั้น ยังไม่ได้สมัครงานแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่ผ่านคุณสมบัติต้องสอบด้านภาษาเยอรมนี ระดับ A2 และบริษัทฯ ได้มีการประสานงานกับบริษัทที่จะต้องไปทำงานเกี่ยวกับเรื่องค่าจ้าง จึงทำให้เกิดความล่าช้า
แต่ผู้ร้องเรียนได้ทำการร้องเรียนไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ทำให้บริษัทที่ประเทศเยอรมนี ปฏิเสธการรับเข้าทำงาน ทั้งนี้ บริษัทฯ กำลังประสานการจ้างงานบริษัทอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ร้องเรียนได้เข้าไปทำงานได้ในอนาคต”
นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องนี้ คณะกรรมาธิการฯ มีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ให้กรมการจัดหางานควรระวัง บริษัทจัดหางาน ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตจัดหางานไปแล้ว กลับมาขอใบอนุญาตใหม่อีกครั้ง โดยการเปลี่ยนชื่อบริษัท และควรมีการตรวจสอบข้อมูลก่อนการอนุญาตให้บริษัทจัดหางานต่าง ๆ ลงโฆษณาการจัดหางานบนเว็บไซต์ของกรมการจัดหางาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับในอนาคตได้
นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีมติให้กรมการจัดหางาน รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะกลับไปพิจารณาทบทวน หาแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับบริษัทจัดหางาน และเร่งดำเนินการกับบริษัทจัดหางาน ซันโกลด์ เทรดดิ้ง จำกัด เพื่อนำหลักประกันของบริษัทฯ มาเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อนต่อไป
สำหรับประเด็นการจัดส่งแรงงานไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ จากร้องเรียนของ นางสาวกันยาพร พวงจันทร์ และคณะ ที่ได้สมัครงานกับบริษัท จัดหางาน หมิงเซิ่ง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์วิส จำกัด โดยต้องเสียค่านายหน้าและค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน ให้กับทางบริษัทฯ ก่อนการเดินทางนั้น รวมระยะเวลากว่า 2 ปี จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลี และบริษัทฯ ได้บ่ายเบี่ยงกำหนดการที่จะเดินทางไปทำงาน และการคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้กับผู้เสียหาย
ในประเด็นนี้ กรมการจัดหางานได้ชี้แจงว่า การเดินทางไปทำงานในประเทศเกาหลี แบ่งเป็นหลายรูปแบบ อาทิ แบบ E7 เป็นวีซ่าทำงานมีฝีมือ แบบ E8 เป็นวีซ่าเกษตรตามฤดูกาล และแบบ E9 เป็นวีซ่าทำงานภาคเกษตรได้ชั่วคราว สำหรับวีซ่าแบบ E8 และ E9 บริษัทจัดหางานเอกชน ไม่สามารถส่งคนไปทำงานได้ เนื่องจากการทำงานแบบดังกล่าว จะเป็นการส่งไปในลักษณะรัฐต่อรัฐ หรือ G to G เท่านั้น
จากการตรวจสอบการกระทำของ บริษัทจัดหางาน หมิงเซิ่ง อินเตอร์เชั่นแนล เซอร์วิส จำกัด และ บริษัท สยามโกโก้ทัวร์ จำกัด กระทำผิดกฎหมาย ทั้งยังมีการเก็บเงินก่อนเดินทางไปทำงานของบริษัทจัดหางานอีกด้วย ในเรื่องดังกล่าว กรมการจัดหางาน ได้มีระเบียบห้ามไม่ให้บริษัทจัดหางาน เรียกหรือรับค่าบริการ จากแรงงานหางานไว้เป็นการล่วงหน้า ก่อนเดินทาง กรมการจัดหางาน ได้พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตจัดหางานของบริษัทดังกล่าว และทำการยึดหลักประกันของบริษัทฯ เพื่อเยียวยาผู้ร้องเรียนต่อไป
ในประเด็นดังกล่าว ได้ทำการแจ้งความไว้ สน.โชคชัย ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนด้วย ซึ่ง สน.โชคชัย ได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้น และพิจารณาเอกสารและสอบพยาน พบว่าบริษัท สยามโกโก้ทัวร์ จำกัด เคยโดนคดีฉ้อโกงประชาชน ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล และขณะเดียวกันบริษัทจัดหางาน หมิงเซิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์วิส จำกัด และบริษัท สยามโกโกโก้ทัวร์ จำกัด ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด โดยมีเอกสารประกอบการดำเนินการทุกขั้นตอน
ส่วนสาเหตุที่เกิดความล่าช้าขึ้นเนื่องจากอัตราค่าจ้างไม่ตรงกับสัญญาจ้าง ทำให้ต้องไปประสานกับทางฝั่งบริษัทที่ประเทศเกาหลี เรื่องอัตราค่าจ้างใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ ยังติดปัญหาที่กรมการจัดทางานไม่อนุมัติเอกสารให้กับทางบริษัทฯ สำหรับประเด็นนี้นี้คณะกรรมาธิการฯ ได้มีมติให้ กรมการจัดทางาน นำหลักประกันของบริษัทฯ ดังกล่าว นำมาเยียวยาให้กับผู้ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนต่อไป