นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงผลสอบข้อเท็จจริงโครงการบริหารท่อส่งน้ำภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ว่า ขณะนี้ได้ส่งเรื่องกลับไปยังคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของผลการประมูลครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ที่มองว่าข้อมูลยังไม่ครบถ้วน
โดยเฉพาะประเด็นในส่วนของกระบวนการประมูล รวมทั้งข้อมูลเรื่องปริมาณน้ำและศักยภาพของท่อส่งน้ำ ที่นำมาประกอบใน TOR ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ซึ่งต้องทำให้เกิดความชัดเจน เพราะยังเป็นประเด็นที่สังคมยังสงสัย
โดยนายอาคมกล่าวอีกว่า ได้ให้เวลาคณะกรรมการฯไปตรวจสอบเพิ่มเติม และนำกลับมารายงานภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ส่งเรื่องกลับไปเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้รอการอภิปรายงบประมาณประจำปี 66 ให้จบก่อน ส่วนกรณีที่ตนจะถูกอภิปรายในสภาฯในประเด็นนี้นั้น ก็ต้องดูไปตามข้อเท็จจริง
สำหรับความล่าช้าในการลงนามในสัญญาเป็นผู้บริหารโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี นั้น เนื่องจากสังคมเกิดข้อสงสัยในประเด็นความชัดเจนการเปิดประมูล กระทรวงการคลังจึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความชัดเจนและให้สังคมได้คลายสงสัย
ทำให้กรมธนารักษ์ ชะลอการเซ็นสัญญากับบริษัท วงสยามก่อสร้าง จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประมูลออกไปโดยไม่มีกำหนด ทั้งนี้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ได้ส่งผลสอบรายงานไปยังนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 20 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตีกลับผลสอบฯ พร้อมขอข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา