นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เปิดเผยว่า ในปี 2567 นี้ธนาคารตั้งเป้าหมายมีกำไรต่อเนื่อง 2 ปีติดต่อกัน จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ 200 ล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้าหมายจะปล่อยสินเชื่อให้ถึง 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่ปล่อยกู้ใหม่ไปได้ 8,000 ล้านบาท
โดยจะให้ความสำคัญไปที่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร และเน้นไปพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษ เนื่องจากมีลูกค้าของธนาคารค่อนข้างเยอะ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปีนี้ เป็นปีที่ยากในการทำธุรกิจธนาคาร เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทำให้สินเชื่อชะลอตัว โดยครึ่งแรกของปีนี้ปล่อยสินเพื่อไปได้เพียง 2,000 ล้านบาท
“เรามองว่าครึ่งปีว่าการปล่อยกู้จะดีขึ้นตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันที่จะมีการใช้สินเชื่อเยอะ เนื่องจากมีการท่องเที่ยวที่เติบโตในช่วงไฮซีซั่นมาก นอกจากนี้ ธนาคารก็จะเข้าไปเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้า เช่น การย้ายสาขาจ.ภูเก็ต มาจุดที่สะดวกไม่ถูกกระทบจากรถติด”
ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) นั้น ตอนนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเหลือ 11,000-12,000 ล้านบาท โดยคิดเป็น 18-19% ของยอดสินเชื่อรวม ซึ่งลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียส่วนมากเป็นภาคบริการ และท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายจะลดลงหนี้เสียลงมาให้มากที่สุด
ทั้งนี้ จะใช้วิธีการเจรจาปรับโครงสร้างช่วยเหลือลูกหนี้ให้กลับมาผ่อนชำระได้ หรือบางส่วนจะใช้กฎหมายเข้าไปดำเนินการ อีกทั้งขณะนี้การท่องเที่ยวทางอันดามันฟื้นตัวแล้ว ลูกหนี้บางส่วนจึงน่าจะกลับมาได้
“หนี้เสียในส่วนนี้เป็นลูกหนี้ใหม่ ส่วนหนี้เสียเก่าที่ธนาคารเคยมี ก็ได้โอนไปให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด ไปแล้ว และหลังจากนี้ธนาคารยังไม่มีแผนจะโอนหนี้เสียไปให้บริษัทบริหารสินทรัพย์เพิ่มอีก แต่จะเน้นการเจรจาแก้ไข และนำกฎหมายมาบังคับใช้เอง”
ขณะเดียวกัน ไอแบงก์ ได้ร่วมกับ EXIM BANK ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือไอแบงก์ และพันธมิตร 14 หน่วยงาน ดำเนินโครงการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลสู่การส่งออก เพื่อผลักดันไทยก้าวสู่การเป็นอาเซียน ฮาลาล ฮับ ภายในปี 71
และยังได้ออกสินเชื่อ อิกไนท์ ฮาลาล สนับสนุนสภาพคล่องแก่ธุรกิจฮาลาล ทั้งกลุ่มท่องเที่ยว การแพทย์และสุขภาพ และกลุ่มธุรกิจอาหาร หวังผลักดันธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้สามารถเข้าแหล่งเงินทุนฮาลาล วงเงินสินเชื่อ 1-5 ล้านบาท ผ่อนสูงสุด 7 ปี ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และสำหรับลูกค้าในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ส่วนลดค่าผ่อนเพียง 50%