ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Lighthub Asset บริษัทฟินเทคชั้นนำของไทย จับมือกับ WeLab ผู้นำด้าน Virtual Bank ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกาศเข้าร่วมยื่นขอใบอนุญาต Virtual Bank ต่อธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้างการเงินแห่งอนาคตให้แก่ประเทศไทย
โดยทั้ง 2 บริษัทหวังที่จะปฏิวัติบริการทางการเงินในประเทศไทยผ่านเทคโนโลยีขั้นสูงโดยจะนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ทางด้านฟินเทคมาใช้ในการสร้าง Virtual Bank และพร้อมที่จะนำโซลูชั่นชั้นนำระดับโลกมาสู่อุตสาหกรรมธนาคารไทย
จุดแข็งของกลุ่มบริษัทฯ คือการขับเคลื่อนระบบนิเวศ (Ecosystem) ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานไทยกว่า 46 ล้านราย ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้าง AI-driven Virtual Bank ในประเทศไทย
“Lighthub Asset เป็นฟินเทคชั้นนำของไทย ก่อตั้งโดยนายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ร่วมกับ Lightnet Group ประกอบด้วยฐานลูกค้าในประเทศไทยกว่า 46 ล้านราย ครอบคลุมหลายภาคส่วนตั้งแต่กลุ่มเกษตรกรรม อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซ พร้อมทั้งช่องทางให้บริการกว่า 150,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า”
โดยนายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ เป็นนักธุรกิจชั้นนำของประเทศไทย และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง อิออน ธนสินทรัพย์และฟินันเซีย ไซรัส มีประสบการณ์กว่า 30 ปีในอุตสาหกรรมการเงินของไทยและต่างประเทศ อีกทั้งเป็นเจ้าของนิตยสารชื่อดังระดับโลกอย่าง Fortune Magazine
สำหรับ Lightnet Group บริษัทฟินเทคของไทยที่กลายเป็นบริษัทฟินเทคชั้นนำของโลก และเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินแห่งอนาคตเพื่อช่วยยกระดับการเข้าถึงและเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเงินให้ลูกค้าทั่วโลก ทางกลุ่มบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตการให้บริการทางการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารกลางต่าง ๆ ในเอเชียและยุโรป
ทั้งนี้ Lightnet Group ได้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของลูกค้าหลากหลาย ผ่านธุรกรรมทางการเงินมูลค่ากว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐในแต่ละปี พร้อมให้บริการ Global Payment Solution ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินระหว่างประเทศ ดิจิทัลวอลเล็ท และบัญชี Virtual Bank รองรับหลากหลายสกุลเงินใน 150 ประเทศทั่วโลก ผ่านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น AI และ Blockchain
ด้าน WeLab คือ Virtual Bank ชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก ให้บริการลูกค้ากว่า 65 ล้านราย อนุมัติสินเชื่อดิจิทัลมาแล้วกว่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเสนอบริการทางการเงินดิจิทัลที่ครบครัน ได้แก่ สินเชื่อผ่านระบบ Credit Scoring ล้ำสมัย โซลูชั่นเทคโนโลยีสำหรับองค์กร ไปจนถึงดิจิทัลแบงก์กิ้ง ครอบคลุมทุกด้าน อาทิ การออม การจ่ายเงิน สินเชื่อ ประกัน และการบริหารความมั่งคั่ง
ขณะที่ ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในฐานะที่ปรึกษาของกลุ่มฯ กล่าวว่า ธปท. มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ การเปิดให้มีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ระบบการเงินจะส่งเสริมให้เกิดการแข่งขัน และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ
ซึ่ง Virtual Bank ของทางกลุ่มฯ มีวิสัยทัศน์ในทิศทางเดียวกับทาง ธปท. ที่จะมีการนำแนวทางและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงทางการเงิน และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับการเงินของประเทศไทย
นายหิรัญกฤษฎิ์ (ตฤบดี) อรุณานนท์ชัย กรรมการบริหาร Lighthub Asset และผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Lightnet Group กล่าวว่า เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับนโยบายของ ธปท. ที่จะนำประเทศไทยก้าวสู่ยุค Virtual Banking ซึ่งนับเป็นหมุดหมายที่สำคัญของอุตสาหกรรมการเงินของประเทศ กลุ่มพันธมิตรของเราต้องการนำเสนอ "Smart & Open Virtual Bank” ที่จะนำความเชี่ยวชาญในระดับโลกของเราในด้าน AI, Data Analytic, Digital Platform และนวัตกรรม Credit Scoring มาใช้
ทั้งนี้ เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับกลุ่ม Unserved และ Underserved ซึ่งจะก่อให้เกิดการเข้าถึงทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเงินและ AI ของภูมิภาคเอเชีย
นายไซมอน หลุง ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WeLab กล่าวว่า“เรามีความตื่นเต้นที่จะได้ร่วมสร้าง Virtual Bank แห่งที่สามในเอเชีย และทำให้เป็น Virtual Bank ชั้นนำของไทย เพื่อส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้าของเราทั้งในประเทศไทยและในเอเชียแปซิฟิก เราเชื่อมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เปิดกว้างสำหรับพันธมิตรทุกราย
เพื่อการทำงานร่วมกันเช่นเดียวกับประสบการณ์ที่เราทำงานร่วมกับพันธมิตรระดับโลก เช่น Apple, Tesla, Allianz และ CK Hutchison ในต่างประเทศ เรามุ่งมั่นที่จะผสานเทคโนโลยีและระบบธนาคารเข้าไปในชีวิตประจำวันของทุกคน และมีส่วนในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย