จิตไม่แข็งพอไหม ที่จะไม่เชื่อข้อมูลต่างๆโดยง่าย ก่อนตัดสินใจลงทุน

13 พ.ค. 2567 | 05:43 น.

จิตไม่แข็งพอไหม ที่จะไม่เชื่อข้อมูลต่างๆโดยง่าย ก่อนตัดสินใจลงทุน: คอลัมน์ Investing Tactic โดย แพร พัชชาพลอย ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา เจ้าของเพจ มัมเก็บpip

ด้วยธรรมชาติของนักลงทุน เรามักจะต้องติดตามข่าวสารการลงทุนในสื่อไว้ ไม่มากก็น้อย หลายๆสื่อมีนักวิเคราะห์ออกมาให้คำแนะนำข้อมูลการลงทุนอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเชิงปัจจัยพื้นฐานของสินค้าหรือธุรกิจ หรือข้อมูลในเชิง graph technical analysis ซึ่งข้อมูลพวกนี้เราจะต้องเลือกเสพให้ถูกช่องทางและที่สำคัญควรเลือกเสพเฉพาะข่าวที่ให้ข้อมูลที่ไม่เอนเอียงหรือชี้นำมากเกินไป ผู้ให้คำแนะนำในสื่อนั้นๆต้องมีใบรับรองการให้คำแนะนำในการลงทุนในสินค้านั้นด้วย

แต่นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะเลือกเสพข้อมูลเพียงด้านเดียว(ด้านบวก) เพราะข้อมูลเชิงบวก เปรียบเสมือน “แสงไฟ” มักเรียกแขก หรือเราอาจจะเรียกอีกชื่อว่า “เม่า” โบยบินเข้ามา เพื่อหาผลกำไรจากตลาดได้เป็นอย่างดี ถ้านักลงทุนไม่นำข้อมูลที่เสพมาไปหาข้อเท็จจริงจากแหล่งข้อมูลอื่นๆที่น่าเชื่อถือก็อาจจะเสียหายจากการลงทุนได้ เพราะฉะนั้นนักลงทุนต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งมากพอที่จะไม่เชื่อข้อมูลต่างๆโดยง่าย ก่อนตัดสินใจลงทุน

การวิเคราะห์สินค้าด้วยกราฟเองก็ดี ถ้านักลงทุนยังอยู่ในช่วงตามหาหน้าเทรดที่เข้ากับตัวเองอยู่และกำลังอยู่ในช่วงทดลองการใช้งาน นั่นแปลว่า ยังไม่มีความมั่นใจในการเทรดหรือยังไม่แน่ใจว่าหน้าเทรดที่ใช้งานจะสามารถใช้ทำเงินได้จริงหรือปล่าว เหมาะกับตัวเองหรือไม่ ก็ไม่ควรติดตามการวิเคราะห์กราฟของนักลงทุนท่านอื่น ที่ให้ข้อมูลขัดแย้งหรือไม่ตรงกับแผนการเทรดของตัวเอง เพราะจะยิ่งทำให้นักลงทุนเกิดความสับสน

หาจุดยืนในการเทรดของตัวเองไม่เจอสักที บางครั้งตัดสินใจไปแล้ว เกิดความลังเลในสถานะของตัวเอง จนสุดท้ายไม่เป็นไปตามแผนของตัวเองที่วางไว้ ทำให้เกิดความเสียหาย นี่คือสาเหตุหลักที่ว่า ทำไมนักลงทุนต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งมากพอก่อนที่จะเห็นแผนการเทรดของคนอื่น

จิตไม่แข็งพอไหม ที่จะไม่เชื่อข้อมูลต่างๆโดยง่าย ก่อนตัดสินใจลงทุน

แล้วเราจะต้องทำอย่างไร ให้จิตใจเราเข้มแข็งพอที่จะเชื่อมั่นในเครื่องมือ หรือ ข้อมูลต่างๆ ที่จะใช้ประกอบการลงทุนของเรา วันนี้ผู้เขียนมีคำแนะนำที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยมาฝากค่ะ วิธีนี้สำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการหาตัวตนของตัวเองในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาว สามารถใช้วิธีนี้ได้ค่ะ

นั่นคือ เลือกเชื่อข้อมูลที่มาจากแหล่งที่ได้รับการยอมรับและเชื่อถือได้  หรือสำหรับคนที่ใช้กราฟประกอบการตัดสินใจให้เลือกหน้าเทรดใดหน้าเทรดหนึ่งมาทำการทดสอบไปกับตลาดจริง โดยที่ไม่เสพหรือเชื่อหน้าเทรดอื่นเพิ่มเติมจนกว่าจะแน่ชัดว่า สิ่งที่นักลงทุนทำการทดลองมานั้น สามารถใช้ทำกำไรได้จริง ศึกษาให้รู้ถึงข้อดี ข้อเสียในสิ่งที่นักลงทุนเลือกใช้ เป็นระยะเวลานานอย่างน้อย 6 เดือน เพราะเราไม่จำเป็นต้องรีบกับการลงทุนในตลาดหุ้น หรือสินค้าในตลาด จนกว่าเราจะรู้แน่ชัดว่า เราเข้าใจตลาดและเข้าใจเครื่องมือของตัวเองมากพอ

การที่เราไม่เสพหน้าเทรดของนักลงทุนรายอื่น และข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ จะทำให้เรามีจิตที่เข้มแข็ง และการเทรดที่ไม่อิงข้อมูลของผู้อื่นมักให้ผลในทิศทางที่ดีกว่าการรับสารจากหลายๆทาง

วิธีนี้ผู้เขียนเองทดสอบมาด้วยตนเองแล้วและมั่นใจว่าได้ผลดี เคยได้แนะนำให้เพื่อนๆนักลงทุนหลายๆท่านลองปิดตาเลิกอ่านกราฟของคนอื่น สนใจแต่กราฟของตัวเองอย่างเดียว หลายคนมีผลการเทรดที่ดีขึ้น เพื่อนๆนักลงทุนลองนำวิธีนี้ไปปรับใช้ อาจจะส่งผลให้การเทรดของท่านมีประสิทธิผลที่ดีขึ้นเช่นกันนะคะ

สุดท้ายนี้ ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้กับนักลงทุนทุกท่านทีกำลังตามหาเส้นทางของตัวเองอยู่ ขอให้เส้นทางทีทุกท่านเลือก เป็นเส้นทางที่นำพาทุกท่านไปสู่จุดหมายที่หวังไว้นะคะ

 

 

 

 

 

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,991 วันที่ 12 - 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2567