บมจ.เชฎฐ์ เอเชีย หรือ CHASE ประกอบธุรกิจบริหารหนี้สิน และจัดเก็บหนี้ครบวงจร พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 21 ก.พ.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO กว่า 5,757.78 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “CHASE”
โดยมีทุนชำระแล้ว 992,720,900 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนจำนวนรวม 562 ล้านหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์เอเชีย พลัส คาดกำไรสุทธิปี 66 ของ CHASE จะพลิบกลับมาเติบโตถึง 57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 25% ในปี 67 ผลบวกจากการซื้อหนี้เข้ามาในปี 64-65 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยเก็บหนี้ได้มากขึ้น และแนวโน้มการประหยัดต่อขนาด กำหนดราคาเป้าหมายที่ 3.70 บาทต่อหุ้น
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. เชฎฐ์ เอเชีย เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์
CHASE เป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) (RS) ที่ให้บริการด้านบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ(AMC) (เน้นไม่มีหลักประกัน) และการเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สิน (Collection) รวมถึงการดำเนินคดีแบบครบวงจร ดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า 25 ปี
นายประชา ชัยสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เชฎฐ์ เอเชีย (CHASE) ระบุว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยให้บริษัทฯ มีฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้น เพิ่มศักยภาพในการเติบโต โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาใช้ในการลงทุนขยายพอร์ตเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และเพิ่มประสิทธิภาพของบริการติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สินที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดศักยภาพของ CHASE ในการให้บริการจัดการหนี้สินอย่างครบวงจร
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
CHASE มีผู้ถือหุ้น 3 ลำดับแรกหลัง IPO ประกอบด้วย