PTTEP กำไรสุทธิปี 66 แตะ 2.2 พันล้านดอลลาร์ โต 10%

31 ม.ค. 2567 | 04:51 น.
อัพเดตล่าสุด :31 ม.ค. 2567 | 05:01 น.

PTTEP ประกาศกำไรสุทธิปี 66 แตะ 2,208 ล้านดอลลาร์ โต 10% จากปีก่อน จากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน การด้อยค่าของสินทรัพย์มีจำนวนลดลง และการขายสัดส่วนการลงทุนในโครงการเอซี/อาร์แอล 7 ขณะที่ปริมาณการขายเฉลี่ย 462,007 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP แจ้งผลการดำเนินงานปี 2566 ต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่า ผลการดำเนินงานปี 2566 เทียบกับปี 2565 ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิในปี 2566 จำนวน 2,208 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้น 209 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือ 10% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 1,999 ล้านดอลลาร์ สรอ. แม้ว่ารายได้จากการขายลดลง แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยหลักจากขาดทุนจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน และขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์มีจำนวนลดลง รวมถึงปีนี้มีกำไรจากการขายสัดส่วนการลงทุนในโครงการเอซี/อาร์แอล 7 (Cash-Maple) โดยกำไรสุทธิสำหรับปี 2566 จำนวน 2,208 ล้านดอลลาร์ สรอ. แบ่งออกเป็น

กำไรจากการดำเนินงานปกติสำหรับปี 2566 จำนวน 2,322 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลง 325 ล้านดอลลาร์ สรอ. เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 ที่มีกำไร 2,647 ล้านดอลลาร์ สรอ. สาเหตุหลักจากรายได้จากการขาย ลดลง 759 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากราคาขายเฉลี่ยและปริมาณการขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดลง ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพิ่มขึ้น 115 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหลักจากรายการปรับปรุงทางบัญชีเมื่อสิ้นสุดสัมปทานของโครงการบงกชในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา

PTTEP กำไรสุทธิปี 66 แตะ 2.2 พันล้านดอลลาร์ โต 10%

รวมถึงโครงการจี 1/61 (เอราวัณ) และโครงการจี 2/61 มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ค่าภาคหลวงลดลง 238 ล้านดอลลาร์สรอ. ส่วนใหญ่จากโครงการสัญญาแบ่งปันผลผลิตในประเทศไทยมีสัดส่วนรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น และโครงการในประเทศมาเลเซียมีรายได้จากการขายลดลง ในส่วนของภาษีเงินได้ ลดลง 224 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหลักจากโครงการในประเทศไทย และประเทศโอมานตามกำไรที่ลดลง นอกจากนั้น รายได้ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 108 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากเงินสดคงเหลือและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

ขาดทุนจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติสำหรับปี 2566 จำนวน 114 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลง 534 ล้านดอลลาร์ สรอ. เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 ที่มีขาดทุน 648 ล้านดอลลาร์ สรอ. สาเหตุหลักจากขาดทุนจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน ลดลง 182 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากราคาซื้อขายน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าปีก่อน รวมถึงการปรับกลยุทธ์การเข้าทำสัญญา (ปี 2566 : ขาดทุน 4 ล้านดอลลาร์ สรอ. ปี 2565 : ขาดทุน 186 ล้านดอลลาร์ สรอ.)

นอกจากนั้น ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ ลดลง 180 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยปี 2566 รับรู้ขาดทุนของโครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 จำนวน 120 ล้านดอลลาร์ สรอ. (ปี 2565 : รับรู้ขาดทุนของโครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 โครงการแปลง 17/06 (ประเทศแองโกลา) และบริษัท PTTEP BL) สำหรับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิกับขาดทุนจากสัญญาซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า เป็นผลขาดทุนจำนวน 5 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยขาดทุนลดลง 87 ล้านดอลลาร์ สรอ. เมื่อเทียบกับปีก่อน

รวมถึงมีรายการสำคัญของโครงการออสเตรเลียในปี 2566 ได้แก่ กำไรจากการขายสัดส่วนการลงทุนในโครงการเอซี/อาร์แอล 7 (Cash-Maple) จำนวน 73 ล้านดอลลาร์ สรอ. สุทธิกับขาดทุนจากการตัดจำหน่ายหลุมสำรวจและต้นทุนของโครงการเอซี/อาร์แอล 12 (Oliver) จำนวน 50 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในขณะเดียวกันมีรายการสำคัญอื่นที่เกิดขึ้นในปี 2565 ได้แก่ ค่าใช้จ่ายจากการระงับการดำเนินคดีแบบกลุ่มจากเหตุการณ์แหล่งมอนทาราจำนวน 129 ล้านดอลลาร์ สรอ. สุทธิกับรายได้อื่นจากการปรับปรุงรายการหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นของโครงการโอมาน แปลง 61 จำนวน 71 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในขณะที่ปีนี้ไม่มีรายการดังกล่าว

ในปี 2566 ปตท.สผ.และบริษัทย่อยมีปริมาณการขายเฉลี่ย 462,007 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ลดลง 1% จากปี 2565 ที่มีปริมาณการขายเฉลี่ย 468,130 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยหลักจากโครงการโอมาน แปลง 61 มีสัดส่วนปริมาณการขาย (Contractor Entitlement) ลดลง และมีการปิดซ่อมบำรุงในปีนี้ อีกทั้ง โครงการบงกชได้สิ้นสุดสัมปทานเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ สุทธิกับโครงการจี 1/61 และโครงการจี 2/61 ที่รับรู้ปริมาณการขายเต็มปี

รวมถึงโครงการจี 1/61 ได้บรรลุเป้าหมายในการเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นอกจากนั้นราคาขายเฉลี่ยลดลง 10% เป็น 48.21 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ (ปี 2565 : 53.39 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ)