ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่งกรอบ 1,280-1,320 จุด หุ้นสื่อสาร-โรงไฟฟ้าเด่น

26 ก.ค. 2567 | 10:40 น.
อัพเดตล่าสุด :26 ก.ค. 2567 | 10:46 น.

โบรกคาดดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (30 ก.ค. - 2 ส.ค. 2567) เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง ประเมินกรอบดัชนี 1,280-1,320 จุด แนะหุ้นกลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า น่าลงทุน

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการณผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (30 ก.ค. - 2 ส.ค. 2567) มองว่าไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างมีทิศทาง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากยังมีปัจจัยกดดันจากความเสี่ยงนโยบาย "ประธานาธิบดีสหรัฐ" คนใหม่

โดยหากว่าคะแนนนิยมลงน้ำหนักไปที่ "โดนัลด์ ทรัมป์" คนก็กังวลในเรื่องของการเก็บภาษี และภาพของการปรับลดดอกเบี้ยในปี 2568 อาจเป็นไปอย่างจำกัดมากขึ้น ในขณะที่ "กมลา แฮร์ริส" ที่เหมือนจะมุ่งนโยบายไปที่ด้านการดูสังคม การเก็บภาษีนิติบุคคลอาจนำไปสู่การเกิดผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ หลายฝ่ายยังคงมีความกังวลในต่อเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลง โดยเฉพาะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศสหรัฐฯและจีนที่จะแรงมากขึ้น ส่งผลให้ในระยะสั้นเกิดแรงขายหุ้นโดยเฉพาะหุ้น Tech และย้ายไปสู่ตลาดตราสารหนี้สหรัฐฯ และหุ้นกลุ่มอื่นๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหุ้นที่มีกระแสเงินสดในมือที่แข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานยังมีกาารเติบโต และให้ปันผลในระดับที่ดี

ทั้งนี้ ทางฝ่ายยังคงมองว่า Sentiment ตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังปี 2567 ยังคงทิศทางที่เป็นบวกได้อยู่ ด้วยวัฏจักรดอกเบี้ยที่เป็นขาลงในช่วงปลายปีนี้ และตลอดปี 2568 โดยนักลงทุนที่มองระยะยาว ทางฝ่ายแนะนำหุ้นกลุ่มอาหาร มีแนวโน้มที่น่าสนใจ จากราคาหมู-ไก่ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ความต้องการบริโภคที่ขยายตัว และมีด้านการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเข้ามาหนุนการบริโภคเพิ่มขึ้นอีกด้วย

สำหรับการลงทุนในระยะสั้น ทางฝ่ายแนะนำหุ้นกลุ่มที่ Active หน่อย เช่น กลุ่มสื่อสาร ADVANC INTUCH กลุ่มโรงไฟฟ้า RATCH EGCO GULF และหุ้นกอง REIT เช่น DIF 3BBIF CPNREIT เป็นต้น โดยในระยะนี้จะสังเกตเห็นได้ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังมีแต่ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นที่ปลอดภัย อาทิ กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า และเฮลธ์แคร์

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายประเมินกรอบการเครื่องไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าไว้ที่แนวรับ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,320 จุด โดยที่หากดัชนีหลุดลงไปต่ำกว่า 1,310 จุด ก็มีความเสี่ยง Downside จะลงไป 1,280 จุด แต่มั่นใจว่าจะไม่ลงลึกไปถึง 1,100 จุดแน่นอน