น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
วัคซีน mRNA เข็มที่ 4 ให้ผลไม่แตกต่างจากเข็มที่ 3 ในกรณีต้องรับมือไวรัส Omicron (โอมิครอน)
จากกรณีไวรัส Omicron ระบาดกว้างขวางรวดเร็วทั่วโลก จนขณะนี้มีประเทศที่พบผู้ติดเชื้อ Omicron ไปแล้วกว่า 140 ประเทศ ในช่วงระยะเวลาเพียง 2 เดือน
แม้ไวรัส Omicron จะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงน้อยกว่าไวรัสสายพันธุ์ Delta (เดลตา) ทั้งผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิต
แต่การติดเชื้อไวรัสในกลุ่มเสี่ยงคือ ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ก็ยังสามารถทำให้เกิดอาการหนักจนเสียชีวิตได้
จึงมีการเร่งวิจัยและพัฒนาวัคซีนเจนเนอเรชั่นที่สอง เพื่อจะรับมือกับไวรัส Omicron แต่ยังไม่สำเร็จ (มีเพียงข่าวว่าบริษัท Pfizer กำลังจะผลิตในเดือนมีนาคม 2565)
จึงทำให้ในขณะนี้ เรามีเฉพาะวัคซีนเจนเนอเรชั่นที่หนึ่ง ซึ่งไม่ได้ผลิตมาเพื่อรับมือกับไวรัส Omicron
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่าวัคซีนของทุกเทคโนโลยีและทุกบริษัท รับมือกับ Omicron ได้เพียง 30% ในกรณีฉีด 2 เข็ม
ถ้าฉีด 3 เข็ม พบว่ารับมือกับ Omicron ได้ดีเพิ่มขึ้นเป็น 60-70%
ทั้งนี้เป็นตัวเลขของการป้องกันการติดเชื้อ ถ้าเป็นกรณีป้องกันหรือลดการป่วยหนักและการเสียชีวิต ตัวเลขจะสูงกว่านี้
อิสราเอลซึ่งเป็นประเทศขนาดเล็กที่ประชาชนให้การยอมรับในการทดลองสิ่งต่างๆใหม่ๆง่ายกว่าประเทศอื่น รวมทั้งการทดลองวัคซีนด้วย
จึงมีงานวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนออกมาเป็นลำดับต้นของโลกเสมอ
ล่าสุดศูนย์การแพทย์ Sheba ของอิสราเอลได้รายงานข้อมูลเบื้องต้นว่า
ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีน Pfizer แล้ว 3 เข็ม
โดยมี 154 รายฉีดเข็ม 4 เป็น Pfizer และ 120 รายฉีดวัคซีน Moderna
โดยนำไปเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมก็คือ ผู้ที่ฉีดวัคซีน Pfizer 3 เข็ม โดยไม่ได้ฉีดเข็มที่ 4
พบว่าระดับภูมิคุ้มกันสูงกว่าฉีด 3 เข็มเพียงเล็กน้อย จึงคาดว่าจะรับมือไวรัส Omicron ได้ไม่แตกต่างไปจากฉีด 3 เข็ม
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนมีข้อสังเกตดังนี้
กล่าวโดยสรุป