นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า การรักษาผู้ป่วยต้อหิน ต้องรักษาและดูแลไปตลอดชิวิต ปัญหาเรื่องการยอมรับได้ของผู้ป่วยคือสิ่งสำคัญ แพทย์อธิบายความสำคัญและความจำเป็นในการรักษา โดยมากผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ จึงมักมีปัญหาเรื่องการหยอดยา
เช่น ลืมหยอดยา หรือหยอดยาไม่เข้าตา มียาหลายตัวจำสับสน จำสลับทำให้หยอดยาไม่ครบ ไม่เข้าใจวิธีการหยอดยาที่ถูกต้อง เก็บยาผิดวิธีหรืออาจมีโรคทางกายร่วมด้วยเช่น โรคพาร์คินสัน โรคข้อรูมาทอยด์ อาจต้องขอความร่วมมือจากญาติที่ดูแลผู้ป่วยช่วยกันใส่ใจมากขึ้น ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ยา และฟังคำแนะนำจากแพทย์อย่างตั้งใจเพื่อที่ผู้ป่วยได้รับความเข้าใจและปฏิบัติได้อย่างถูกวิธี
ด้านนายแพทย์จตุพร งามจิตติอำไพ หัวหน้าหน่วยต้อหิน กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคต้อหินส่วนใหญ่จะประสบปัญหาเกี่ยวกับการใช้ยาหยอดตาที่ผิดวิธี หรือลืมหยอดยาจึงทำให้ผลการรักษาด้อยลง
การหยอดตารักษาโรคต้อหินอย่างถูกวิธี ได้แก่
1.ก่อนสัมผัสบริเวณรอบดวงตา ล้างมือให้สะอาด และเช็ดมือให้แห้งทุกครั้ง
2.อยู่ในท่านั่งหรือท่ายืนที่ถนัด
3.เปิดจุกขวดยา ระวังอย่าให้นิ้วมือสัมผัสปลายจุกขวด
4.ใช้นิ้วมือข้างหนึ่งดึง หนังตาล่างลงให้เป็นกระพุ้งจากนั้นแหงนหน้าขึ้น
5.ใช้มือข้างที่ถนัดถือขวดยาหยอดตา วางมือข้างที่ถือขวดยาบนมือที่เปิดตา เพื่อกะตำแหน่งของกระพุ้งตาด้านล่างได้อย่างถูกต้อง
6.เหลือบตาขึ้นด้านบน แล้วบีบยาหนึ่งหยดเบา ๆ ลงที่กระพุ้งตาด้านล่าง ระวังอย่าให้ปลายจุกขวดยาสัมผัสที่ขนตา หรือส่วนอื่นของเปลือกตา
7.การหยดยาเพียงหนึ่งหยดนั้นเพียงพอแล้ว การหยอดตามากกว่าหนึ่งหยดไม่มีประโยชน์เพิ่มขึ้นและเป็นการสิ้นเปลือง
8. หลับตาประมาณ 2-3 นาที เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น
ข้อควรระวังหากมียาเกิน 2 ชนิด หลังหยอดยาชนิดแรกให้เว้นระยะประมาณ 5 – 10 นาที จึงจะหยอดชนิดที่ 2 เพราะหากหยอดยาพร้อมกันจะทำให้ฤทธิ์ยาเจือจางและหลังจากเปิดขวดยาใช้แล้วจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 เดือน ไม่ควรเปิดขวดยาทิ้งไว้ ควรปิดทันทีและไม่ควรวางขวดยาในที่ๆมีแสงแดดหรือที่อากาศร้อนจะทำให้ยาหยอดเสื่อมฤทธิ์เร็วขึ้น หากมีข้อสงสัยเรื่องการใช้ยาควรปรึกษาเภสัชกรห้องยาโดยตรง