พญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี ผู้อำนวยการศูนย์ Premier Life Center โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวว่า ในปี 2568 เทรนด์การดูแลสุขภาพจะเน้นการปรับสมดุลของร่างกายและจิตใจ โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันและส่งเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตในระยะยาว และการดูแลสุขภาพไม่ควรเริ่มเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย และควรเริ่มต้นด้วยการป้องกัน เช่น การพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ
เทรนด์สุขภาพเหล่านี้ไม่เพียงตอบสนองความต้องการของผู้คนในยุคปัจจุบัน แต่ยังช่วยสร้างสุขภาพที่ดีและยั่งยืนสำหรับทุกคนในระยะยาวเพราะหากระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง จะเปรียบเสมือนมีกองทัพที่พร้อมปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรียหรือไวรัส และภูมิคุ้มกันสามารถจัดการเชื้อโรคขนาดเล็กได้ง่าย แต่สำหรับเชื้อโรคขนาดใหญ่ เช่น ก้อนเนื้องอก จำเป็นต้องใช้ภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งมากขึ้น
โดย The Selection แพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์และบริการด้านการดูแลสุขภาพ ภายใต้แนวคิด “เลือกที่ใช่ให้สุขภาพ” ได้เปิดเทรนด์สุขภาพปี 2568 ที่กำลังมาแรง โดยเน้นการสร้างสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจ เปลี่ยนจากการรักษาเมื่อเจ็บป่วยสู่การป้องกันและส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ มาประยุกต์ใช้ควบคู่กับข้อมูลทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ ยกระดับคุณภาพชีวิตในระยะยาว ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงของคนในยุคปัจจุบัน ดังนี้
1.Gut Health: การดูแลลำไส้เป็นหัวใจสำคัญของสุขภาพองค์รวม ด้วยการใช้ โปรไบโอติก พรีไบโอติก และผลิตภัณฑ์ที่เสริมจุลินทรีย์ดีในลำไส้ เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ และส่งเสริมภูมิคุ้มกัน
2.Epigenetics: การวิเคราะห์เหนือระดับยีนเพื่อปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและพฤติกรรมเฉพาะบุคคล เช่น อาหารที่ตอบโจทย์ระดับเหนือพันธุกรรม เพื่อส่งเสริมสุขภาพในระดับเซลล์
3.Immune System: การตรวจวัด NK Cell จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ภูมิคุ้มกัน พร้อมกับผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเสริมภูมิคุ้มกันสำหรับทุกวัย
4.Functional Wellness: ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนช่วยเพิ่มพลังงาน และสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ จะเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวัน
5.Personalized Wellness: การใช้เทคโนโลยี เช่น AI และ IoT เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล สร้างสุขภาพที่สมดุลและยั่งยืนสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย เช่น การออกแบบโภชนาการและแผนการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล
นอกจากนี้ พญ.กอบกุลยา กล่าวว่า ถึงเทรนด์การดูแลสุขภาพและการรักษาแบบเฉพาะบุคคล หรือ Personalized Wellness กำลังกลายเป็นเทรนด์สำคัญที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมสุขภาพไทยและทั่วโลก ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และจีโนมิกส์ ที่ช่วยให้การวินิจฉัยและการรักษามีความแม่นยำและตรงจุดมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังและโรคร้ายแรง
โดย Personalized Wellness จะมุ่งเน้นการนำข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ประวัติสุขภาพและพันธุกรรม มาออกแบบแผนการดูแลที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล ตั้งแต่การคัดกรองความเสี่ยง การให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคล ไปจนถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงและเพิ่มโอกาสฟื้นฟูสุขภาพ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย อีกทั้งยังตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ใส่ใจสุขภาพและพร้อมลงทุนในบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล ส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางสุขภาพระดับภูมิภาค