มาริแอน กิบเบิลส์ ผู้อำนวยการสายงานความยั่งยืน ของ Booking.com กล่าวว่า การเปิดตัวสัญลักษณ์ “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” มีขึ้นเพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการรับรองความน่าเชื่อถือของที่พักรักษ์โลกที่มีเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก ซึ่งดำเนินธุรกิจตามแนวทางด้านความยั่งยืน ที่ส่งผลเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างแท้จริง
โดยสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้เดินทางสามารถเข้าถึงข้อมูลที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน และเข้าใจง่าย สำหรับบ่งชี้ความเป็นที่พักรักษ์โลก ไม่ว่าผู้เดินทางจะเดินทางไปที่ไหนก็สามารถจอง เพื่อเข้าพักในที่พักรักษ์โลกได้ผ่านสัญลักษณ์ “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” บนแพลตฟอร์ม Booking.com
ในช่วงแรกของการเปิดตัวโปรแกรมนี้ ผู้เดินทางจะมองเห็นสัญลักษณ์ “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” และข้อมูลโดยรวมเกี่ยวกับความพยายามด้านความยั่งยืนของที่พักแต่ละแห่งบนหน้าข้อมูลที่พักทั้งบนแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ Booking.com
หลังจากช่วงของการเปิดตัว สัญลักษณ์ “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” (ป้ายกำกับที่พักรักษ์โลก) และฟิลเตอร์สำหรับค้นหา “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” จะเริ่มปรากฏบนแพลตฟอร์ม Booking.com ในหน้าผลการค้นหาของตัวเลือกที่พักด้วยจำนวนที่มากขึ้น และครอบคลุมขึ้นเรื่อยๆ เพื่อช่วยให้ผู้เดินทางพบตัวเลือกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นได้ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการเดินทางผ่านการค้นหาที่พักบน Booking.com
จากความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตร Travalyst ตราสัญลักษณ์ “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” เวอร์ชั่นแรก เน้นไปที่การยกระดับมาตรการสำหรับความยั่งยืนที่ผู้ให้บริการที่พักนำไปปรับใช้ โดยต้องเป็นแนวทางที่มีศักยภาพที่ถูกรับรองโดยกลุ่มที่ปรึกษาอิสระของ Travalyst ป้ายสัญลักษณ์ “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” จึงมีขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มการเข้าถึงความยั่งยืนให้กับผู้เดินทาง ผ่านการแสดงแนวทางด้านความยั่งยืนอันโดดเด่นของที่พักนั้นๆ
การสร้างมาตรฐานที่เชื่อถือได้สำหรับที่พักยั่งยืนนั้นมี การพัฒนาและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดย Booking.com ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเดินทาง ผ่านบทบาทสำคัญของ Booking.com ในกลุ่มพันธมิตร Travalyst และร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากวงการอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อกำหนดถึงชุดแนวทางด้านความยั่งยืนที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เพื่อเป็นมาตรฐานให้ที่พักได้พิจารณาใน 5 หัวข้อ ได้แก่ ขยะ พลังงานและก๊าซเรือนกระจก น้ำ การสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น และการปกป้องธรรมชาติ ในขณะนี้กรอบพื้นฐานดังกล่าวได้ถูกแยกย่อยออกมาเป็นมาตรการหรือแนวทางเพื่อความยั่งยืนที่เฉพาะเจาะจง 32 รายการ ซึ่งที่พักสามารถเลือกปรับใช้ได้ โดยครอบคลุมทุกอย่าง ตั้งแต่การเลิกใช้เครื่องใช้ในห้องน้ำที่บรรจุภัณฑ์ทำจากพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือเปลี่ยนไปใช้หลอดไฟ LED เพื่อใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนแบบ 100% หรือสนับสนุนเงินจำนวนหนึ่งที่ได้จากกำไรให้กลับไปพัฒนาชุมชน และหมุนเวียนในโครงการเพื่อการอนุรักษ์ในท้องถิ่น
สำหรับแนวทางแต่ละรายการนี้ Booking.com ยังได้ทำงานร่วมกับ Sustainalize ผู้ให้คำปรึกษาด้านความยั่งยืนที่น่าเชื่อถือ เพื่อพัฒนาวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการประเมินน้ำหนักสัมพัทธ์หรือผลเชิงบวก ของแนวทางเหล่านี้ที่มีต่อโปรแกรมด้านความยั่งยืนในองค์รวม การคำนวณยังพิจารณาจากที่ตั้งและขนาดของที่พัก เพื่อพัฒนาความแม่นยำของโมเดลการให้คะแนนความยั่งยืน ให้สามารถนำไปใช้กับที่พักคู่ค้าของ Booking.com ที่มีความหลากหลายได้อย่างมีมาตรฐาน
เช่น มาตรการลดการใช้น้ำในพื้นที่ที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดภัยแล้ง หรือการจัดหาตัวเลือกพลังงานหมุนเวียนในประเทศที่ยังไม่มีให้บริการในวงกว้าง จะถือว่ามีน้ำหนักในการส่งผลกระทบเชิงบวกมากกว่า ซึ่งส่งผลให้ที่พักนั้นได้คะแนนมากกว่าที่พักที่มีแนวทางเดียวกันแต่ตั้งอยู่บนพื้นที่อื่นๆ นั่นเอง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโดยละเอียดว่าที่พักแต่ละแห่งทั่วโลกได้รับสัญลักษณ์นี้ได้อย่างไร สามารถดูข้อมูลได้ในคู่มือด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนบน Partner Hub ของ Booking.com
มาริแอน กล่าวอีกว่า การสร้างอุตสาหกรรมการเดินทางท่องเที่ยวที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง จำเป็นต้องใช้เวลา ความร่วมมือจากทุกฝ่าย และความพยายามร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ความยั่งยืนดังกล่าวจะรุดหน้าไปได้ ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง การสนับสนุนของพันธมิตร และความร่วมมือจากทุกฝ่ายในอุตสาหกรรม โดย Booking.com พัฒนาสัญลักษณ์และโปรแกรมการเดินทางอย่างยั่งยืน ขึ้นเพื่อช่วยให้ที่พักคู่ค้าและที่พักทั่วโลกได้แสดงออกถึงความพยายามเพื่อความยั่งยืน ผ่านวิธีที่น่าเชื่อถือและโปร่งใสสำหรับผู้บริโภค
นอกจากจะเป็นการสนับสนุนผู้บริการที่พักที่มุ่งมั่นที่จะได้รับสัญลักษณ์ ‘ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน’ แล้ว เชื่อว่าการแสดงให้ว่าความยั่งยืนนั้นมีหลายระดับเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการแสดงให้เห็นว่าที่พักรักษ์โลกกำลังมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น และแสดงให้เห็นว่าแต่ละที่พักต่างกำลังเดินหน้าสู่ความยั่งยืนในแนวทางของตนเองนั้นทรงคุณค่าอย่างมาก
จากผลการศึกษาล่าสุดที่จัดทำโดย EY Parthenon และ Booking.com พบว่า แม้กลุ่มผู้ให้บริการที่พักจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 264 ล้านเมตริกตันต่อปี หรือคิดเป็น 10% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดต่อปีในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่ผู้ให้บริการที่พักยังมีโอกาสที่จะช่วยให้การเดินทางและการท่องเที่ยวมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น และแม้ว่าพวกเราต้องใช้เม็ดเงินลงทุนมหาศาล (768 พันล้านยูโร) เพื่อทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2,593 (ค.ศ. 2050) แต่ผู้ให้บริการที่พักหลายแห่งได้เริ่มใช้มาตรการและวิธีการต่างๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว
นอกจากนี้ เมื่อคำนึงถึงความต้องการของผู้เดินทางทั่วโลก 81% และ 98% ของผู้เดินทางชาวไทย ที่ระบุว่าต้องการพักในที่พักแบบรักษ์โลก ในปีที่กำลังจะมาถึง Booking.com จึงมองเห็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะแสดงให้ผู้เดินทางเห็นถึงความพยายามของที่พักคู่ค้าในการดำเนินกิจการบนเส้นทางของการสร้างความยั่งยืน และในทางขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้เดินทางค้นพบที่พักรักษ์โลกได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ 73% ของผู้เดินทางทั่วโลก และ 83% ของผู้เดินทางชาวไทยยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ที่จะเลือกที่พักบางแห่ง หากรู้ว่าที่พักดังกล่าวมีการปรับใช้แนวทางเพื่อความยั่งยืน เรียกได้ว่าสัญลักษณ์ “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” และโปรแกรมด้านการเดินทางอย่างยั่งยืน เป็นตัวช่วยให้ที่พักเข้าถึงความต้องการของผู้เดินทางได้อย่างตรงใจ ซึ่งในทางกลับกันเป็นการกระตุ้นผู้ให้บริการที่พักทั่วโลกได้ก้าวสู่ขั้นถัดไปบนเส้นทางแห่งความยั่งยืน และในท้ายที่สุดตัวเลือกที่พักแบบยั่งยืนที่มีให้เลือกจองจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หลากหลายยิ่งขึ้น และเข้าถึงได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นนั่นเอง
การระบุข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางด้านความยั่งยืนซึ่งที่พักกำลังดำเนินการอยู่ จะช่วยให้ผู้เดินทางมีข้อมูลในการตัดสินใจ และเข้าถึงตัวเลือกด้านการเดินทางที่มีความยั่งยืนได้มากยิ่งขึ้นสำหรับทริปถัดไป ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ใดก็ตาม เราเชื่อว่าเราได้สร้างแรงบันดาลใจให้ที่พักคู่ค้าของเรา เพื่อเดินหน้าสู่การดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนมากกว่าที่เคย