ชีวิตยุคใหม่ไปได้สวยด้วยมืออาชีพ (6)

นักพรตสายมู กับ ลูกศิษย์รุ่นพี่ 8 คน และ ลูกศิษย์รุ่นน้อง 1 คน เดินเท้าเข้าสู่แดนป่าทึบ สาวเท้ากันจนลิ้นหด นักพรตสายมู ก็บอกทุกคนให้หาดินโคลนมาคนละก้อน นักพรตสายมู กับ ลูกศิษย์รุ่นพี่ ไปขุดดินโคลนก้อนใหญ่มาคนละก้อน ลูกศิษย์รุ่นน้อง ขุดดินโคลนก้อนเล็ก ทุกคนเอาดินโคลนมาจัดวางไว้กลางวง นักพรตสายมู เสกคาถาพึมพัมเป่าพ้วง ดินโคลนทุกก้อนก็กลายเป็น “ขนมปังฉ่า” (ฮา) นักพรตสายมู กับ ลูกศิษย์รุ่นพี่ ก้มหน้าก้มตากินขนมปังก้อนใหญ่ ลูกศิษย์รุ่นน้อง ตะลึงแต่ก็อมยิ้มที่ได้ขนมปังไซซ์บูชาผี (ฮา)

หลังจากพักผ่อนกันพอควร ก็เดินทางกันต่อจนถึงยามเย็น เจอพื้นที่กว้างขวางเหมาะสำหรับสร้างที่พัก นักพรตสายมู บอกทุกคนว่าให้ไปหาก้อนหินมาคนละก้อน ลูกศิษย์รุ่นพี่ กำหินก้อนเล็กไว้ในมือกันคนละก้อน ลูกศิษย์รุ่นน้อง อุ้มหินก้อนใหญ่มาล้างอาย

นักพรตสายมู บอกกับทุกคนว่า “ทุกคนยืนกันเป็นวงกลม หันหน้ามองไกลออกไปนอกวง เราจะสร้างที่พักกันคนละหนึ่งหลัง แต่ละคนจงขว้างก้อนหินให้ตรงกับทิศที่มองอยู่ ใครขว้างไปไกลจะได้อาณาเขตสร้างที่พักที่กว้างขวาง พร้อมแล้วก็ขว้างเลย” ลูกศิษย์รุ่นพี่ ขว้างไปไกลไม่น้อยกว่า 60 เมตร ลูกศิษย์รุ่นน้อง ก็ขำกลิ้งที่ตนเองยกหินก้อนใหญ่ทุ่มไปไกลสุดแค่ 2 เมตร! (ฮา)

ลูกศิษย์รุ่นน้อง สอบตกบททดสอบ ในลบก็มีบวก! กรณีนี้ทำให้เขา “รู้จักทำความเข้าใจจึงทำใจได้!” ชาวบ้านเรียกหลักนี้ว่า “ปลง!” เขาสารภาพกับ นักพรตสายมู ว่า “ข้าพเจ้าไม่ติดใจเอาความว่า ทำไมไม่มีใครชี้แนะ ข้าพเจ้าเสียรู้เพราะไม่รู้แล้วไม่ถามรุ่นพี่ว่าเราจะเอา ดินโคลน กับ ก้อนหิน ไปทำอะไร นับแต่นี้ไปถ้าไม่มีใครบอก ข้าพเจ้าจะคิดเองก่อน ถ้าคิดไม่ออกก็จะถามผู้ที่มีทักษะเป็นบัณฑิต!”

มืออาชีพระดับโลก แฉตัวเองให้คนทุกรุ่นรู้ไว้เพื่อเป็นกำลังใจว่าอย่าได้ท้อ เขาสอบตกหลายครั้งจนเขาเกือบจะไม่ได้เรียนมัธยมต้น แต่ก็ยังตื๊อที่จะเรียน ทั้งๆ ที่ผลการเรียนไม่ดีพอ ดีหน่อยตรงที่ไม่มีใครรังเกียจ เพราะไม่เคยนอนขวางรถโรงเรียน (ฮา) สอบเข้าอุดมศึกษาโดนวิชาคณิตศาสตร์น็อค คะแนนเต็ม 120 ตอบถูกข้อเดียว ได้เพียง 1 คะแนน  (ฮา) เป็นประธานบริษัทที่ไม่ถูกชะตากับคณิตเขาจึงอ่านรายงานการบัญชีไม่ได้

สมัครเรียน ม.ฮาร์วาร์ด ก็ปฏิเสธไม่รับใบสมัครทั้ง 10 ครั้ง จึงหลบมุมจากยุโรปย่องไปซุ่มเรียนกันที่ ม.ครูหางโจว ตกใจผลการศึกษาเมื่อประกาศว่า เอกภาษาอังกฤษ (ฮา) จบแล้วก็อุบอิบไปสมัครงาน 30 แห่ง แต่ละแห่งมีรูปแบบต่างกัน ไม่วายโดนปฏิเสธทุกจ๊อบ เหวี่ยงชีวิตไปสมัครเป็นตำรวจก็โดนหยามพูดตอกหน้าว่า “คุณมันไม่ดี” เขาคงแอบคิดขำๆว่า ถ้าเราไม่ดีก็น่าจะรับไว้เพราะว่าเขาเองก็น่าจะมี DNA เดียวกัน (ฮา)

ถ้ายังนึกไม่ออกว่าคนดังท่านนี้เป็นใครก็ต้อง แฉ - เลย น่าจะสนุกกว่า เฉลย ภรรยาเขาซึ่งแต่งงานกับเขาก่อนที่เขาจะรวย ไม่สนใจรูปร่างหน้าตา ภรรยาบอกว่า “เขาไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อ ฉันตกหลุมรักเขาก็เพราะเขาสามารถทำสิ่งที่ผู้ชายหล่อทำไม่ได้!” ว้าว…หลักแหลมปานฉะนี้  รัฐบาลให้รางวัลเมียหลวงดีเด่นไปเลยสิค่ะ

เขาผู้นี้ คือ บุคคลเพียงคนเดียวที่ถูก KFC ปฏิเสธ ด้วยเหตุอารมณ์ที่ว่า บุคลิกไม่มีเสน่ห์ หน้าตาดูไม่หล่อ และ รูปร่างเตี้ย KFC รับสมัครพนักงานเหมาไว้หมด 23 คน เว้นวรรค แจ็ค หม่า แต่เพียงคนเดียว เขาสอบสัมภาษณ์ตกจนกลายเป็นหมาเห่าฮ็อตดอกไปเพียงตัวเดียวได้อย่างไรกัน  อิๆ…

ครั้นเมื่อเขาอลังการ อาการขวานผ่าซากก็แพลมออกมา แจ็ค หม่า พูดกับ พันธมิตร ทั้ง 18 คน ซึ่งเป็น หุ้นส่วน ของ อาลีบาบา ว่า “พวกเราไม่มีใครสามารถเป็นผู้บริหารได้ ไม่มีใครสามารถก้าวขึ้นได้สูงกว่าตำแหน่งผู้จัดการ เราจำเป็นจะต้องจ้างผู้จัดการภายนอกแทน!” นับว่าเป็นวาทกรรมฟ้าผ่ากลางใจผู้ร่วมงาน 

ต่อมา แจ็ค หม่า เขาก็ยอมรับว่า เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดของเขา มันเป็นบทเรียนที่เขากลับมาทบทวนใหม่ว่า อันที่จริงแล้ว เขาเองก็ควรจะแบ่งเวลาหันมาพัฒนาบุคคลผู้มีคุณค่า สร้างสรรค์ด้านนวัตกรรม และ ยกระดับวิสัยทัศน์ มันถึงจะใช่

จะอย่างไรก็ตาม ผมถือว่า แจ็ค หม่า เป็นเทพองค์หนึ่งในตลาดโลกที่น่าบูชา ผมเจอท่านซึ่งหน้าวันไหนจะกราบเท้าสักกี่ครั้งก็ยินดี  

แผลใจที่ผ่านมาจะเตือนให้คิดได้ว่า บุคลากรที่ ไม่รู้! ไม่รู้! คล้ายกับ แจ็ค หม่า ซึ่งโดนลบหลู่ว่า ไม่หล่อ ไม่หล่อ ถ้าเขา เสกภูมิปัญญา กับ สักทักษะ คนสำคัญให้มีฤทธิ์ยิ่งกว่า AI คนใต้หลังคาอาลีบาบาก็จะมี สมรรถนะ แปลว่า ความสามารถ สูงค่า คล้ายกับสำนวนที่ภรรยาของเขาพูด ผมจักขอดัดแปลงเล็กน้อยว่า “หุ้นส่วนของผมไม่ใช่ ซูเปอร์มือโปร แต่ทว่า เขาสามารถทำสิ่งที่คู่แข่งทำไม่ได้! ”

ยอมรับเขาเถอะว่า แจ็ค หม่า ท่านมี 1 ใน 11 คุณลักษณะในระดับพื้นฐานของบุคคลที่เลื่องชื่อว่า เขาแกล้วกล้าสามารถที่จะลุกขึ้น “ยืนแอ่นอกยอมรับในผลได้ผลเสียโดยเปิดเผย” สมกับเป็น “มืออาชีพ”