Xinhua (ซินหัว) รายงาน หลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย ได้ประกาศว่าประเทศไทยจะดำเนินนโยบาย "ฟรีวีซ่า" ให้กับชาวจีนเป็นการถาวร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป โดยนโยบายนี้จะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย และถือเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างสองประเทศ จีน-ไทย
ด้าน วังเหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ถึงการที่จีนและไทยจะเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประชาชน ซึ่งนโยบาย “ฟรีวีซ่า” นั้น สอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานของประชาชนสองประเทศ
ทั้งนี้ ในกลุ่มคนแวดวงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจีนมองว่า “ประเทศไทย” เป็นหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวต่างประเทศยอดนิยมของชาวจีนมาตลอด นโยบายฟรีวีซ่าจึงอาจกระตุ้นชาวจีนให้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดท่องเที่ยวของไทยคึกคักในช่วงเทศกาลตรุษจีน ช่วงหยุดวันแรงงาน รวมถึงช่วงหยุดฤดูร้อน
ฝูฟางฟาง ชาวมณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ของจีน เผย เธอเพิ่งกลับจากท่องเที่ยวไทยในช่วงหยุดเทศกาลปีใหม่ จึงได้กระจายข่าวเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายฟรีวีซ่าแก่พลเมืองจีนของไทยให้เพื่อนรอบตัวทันที
พร้อมเสริมว่า แม้ไทยจะมีหลายอย่างคล้ายคลึงกับไห่หนาน แต่มีบรรยากาศที่เฉพาะตัวกว่ามาก ทั้งวัฒนธรรม พุทธศาสนา อาหารการกิน ธรรมเนียมประเพณี และตลาดน้ำของไทยนั้น มอบประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวที่แปลกใหม่แก่ชาวจีน
นอกจากนั้น การบริการทางการท่องเที่ยวของไทยยังมีความละเอียดอ่อน พิถีพิถัน "ถ้าให้พูดจริงๆ เที่ยวไทย 3 วันก็ยังไม่พอ" ฝูฟางฟางทิ้งท้าย
ในรายงานระบุว่า ยอดค้นหาคำว่า "ประเทศไทย" บนแพลตฟอร์มของซีทริป กรุ๊ป ผู้ให้บริการด้านการเดินทางท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 90 ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงหลังจากมีรายงานข่าวเรื่องการฟรีวีซ่าของไทย-จีน ส่วนยอดค้นหาเที่ยวบินเส้นทางเซี่ยงไฮ้-กรุงเทพฯ และปักกิ่ง-กรุงเทพฯ ก็เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 40
ขณะเดียวกันนั้น เว็บไซต์ทริปดอตคอม (Trip.com) ของซีทริปประจำประเทศไทย พบยอดค้นหาคำว่า "ประเทศจีน" เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 80 ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเช่นกัน โดยมีกลุ่มเมืองอย่างกว่างโจว เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และคุนหมิง เป็นคำค้นหาที่ได้รับความนิยมสูง
ทางซีทริป (Trip.com) เผย หากนับถึงวันแรกของปี 2567 ยอดจองการเดินทางสู่ประเทศไทยระหว่างวันที่ 2 มกราคม 67 จนถึงเทศกาลตรุษจีน เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ส่วนยอดจองการเดินทางจากไทยสู่แผ่นดินใหญ่ของจีนก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 779 เมื่อเทียบปีต่อปี ทั้งนี้ ซีทริปเสริมว่า กลุ่มเมืองของจีนที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว ปักกิ่ง ฮาร์บิน เฉิงตู คุนหมิง เซินเจิ้น หางโจว ฉงชิ่ง และฉางซา
ฉินจิ้ง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายกิจการสาธารณะของซีทริป กรุ๊ป กล่าวว่า ไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวจีนจำนวนมากที่สุดในปี 2023 และเป็น 1 ใน 3 จุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวขาออกชาวจีนในช่วงหยุดเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ด้านเลี่ยวฟาหลง จากบริษัทผู้ให้บริการด้านการเดินทางท่องเที่ยวในนครซานย่าของไห่หนาน ระบุอีกว่า นโยบายฟรีวีซ่าแก่พลเมืองจีนของไทยจะเป็นอีกมาตรการกระตุ้นต่อจากมาเลเซียและสิงคโปร์ ที่ได้มีการดำเนินนโยบายประเภทนี้เช่นกัน ทำให้การท่องเที่ยว "สิงค์โปร์-มาเลเซีย-ไทย" ที่ชาวจีนนิยมอยู่แล้ว คึกคักยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ท่าอากาศยานนานาชาติหนานหนิง อู๋ซวี ในเขตปกครองตนเอง กว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน ได้ประกาศแผนการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินตรง เส้นทางหนานหนิง-กรุงเทพฯ ซึ่งกลับมาเปิดให้บริการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยสายการบินไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ส ส่วนสายการบินกว่างซี เป่ยปู้ กลัฟ แอร์ไลน์ส ก็ได้เปิดเผยแผนการกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรง เส้นทางหนานหนิง-กรุงเทพฯ จำนวน 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.67 เป็นต้นไป
จากรายงานของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนเผยว่า ยอดเดินทางท่องเที่ยวในจีนช่วงหยุดเทศกาลปีใหม่ ระยะ 3 วัน (30 ธ.ค. 2566 - 1 ม.ค. 2567) รวมอยู่ที่ราวๆ 135 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 155.3 เมื่อเทียบปีต่อปี และสร้างรายได้กว่า 7.97 หมื่นล้านหยวน (ราว 3.9 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 200.7
ทาง ไต้ปิน ผู้อำนวยการสถาบันการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีนกล่าวว่า ตลาดการท่องเที่ยวในจีนฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในปี 2566 พร้อมคาดการณ์ว่าจำนวนการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนจะสูงเกิน 264 ล้านครั้ง และทำรายได้ 1.07 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.6 ล้านล้านบาท) ในปี 2567
นอกจากนี้ การเดินทางท่องเที่ยวขาออกของชาวจีน รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เขตบริหารพิเศษมาเก๊า และเกาะไต้หวันของจีน ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวเต็มที่ในปี 2567 เช่นกัน หากดูจากการดำเนินนโยบายฟรีวีซ่าให้กับชาวจีนของหลายๆ ประเทศ รวมถึงไทย ประกอบกับราคาบัตรโดยสารเที่ยวบินที่ปรับลดลงตามจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น
ขอบคุณที่มา : Xinhua (ซินหัว)