ปปง. ขยายผล "ดิไอคอนกรุ๊ป" อายัดเงินบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ 1.5 ล้านบาท

17 ต.ค. 2567 | 14:50 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ต.ค. 2567 | 15:02 น.

สำนักงาน ปปง. ขยายผลตรวจสอบธุรกรรม-ทรัพย์สินคดี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก อายัดเพิ่มเติม เป็นเงินในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ มูลค่า1.5 ล้านบาท ไว้ชั่วคราว พร้อมเช็คธุรกรรม บริษัทแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์

วันนี้ (17 ตุลาคม 2567) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 12/2567 วันที่ 17 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมได้มีมติในรายคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ดังนี้

 

1. มอบหมายให้ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รายคดี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

 

ประกอบกับสำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานจากสถาบันการเงินเพิ่มเติมว่า มีผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการกระทำความผิดได้มีคำสั่งให้ขายหลักทรัพย์ จึงมีเหตุที่อันควรเชื่อได้ว่ามีการโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) จำนวน 1 รายการ เป็นเงินในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ มูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาท ไว้เป็นการชั่วคราว  ทั้งนี้ ตามมาตรา 48 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
 

2. มอบหมายให้ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดรายคดี บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด กับพวก (นางสาวกรกนกฯ หรือแม่ตั๊ก และนายกานต์พลฯ หรือป๋าเบียร์) ซึ่งเป็นความมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ

 

ทั้งนี้ ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองคดีข้างต้น สำนักงาน ปปง. ได้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้พนักงานสอบสวนพิจารณาใช้อำนาจ ตามมาตรา 132 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดดังกล่าวไว้ตรวจสอบเบื้องต้น และพิจารณาส่งให้สำนักงาน ปปง. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 
 

อีกทั้ง หากสำนักงาน ปปง. ตรวจพบว่าผู้กระทำความผิดหรือผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ในสองรายคดีดังกล่าว มีการโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดนั้น จะได้ดำเนินการใช้อำนาจยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้นต่อไป

 

อย่างไรก็ตามหากมีผลการดำเนินการที่เป็นสาระสำคัญในสองรายคดีดังกล่าว สำนักงาน ปปง. จะได้แจ้งให้ทราบต่อไป

 

สำหรับความคืบหน้าในคดีดังกล่าว เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้นำตัว 17 ผู้ต้องหา คดี “ดิไอคอนกรุ๊ป” ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ณ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ส่งศาลอาญา พร้อมคัดค้านการประกันตัว เหตุคดีมีโทษสูง มีผู้เสียหายจำนวนมาก

 

ในส่วนของ นายวรัตน์พลฯ หรือ "บอสพอล" เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ยังสอบสวนต่อเนื่องอย่างเข้มข้น เนื่องจากเป็นผู้ต้องหารายสำคัญในคดี ซึ่งจำเป็นต้องสอบสวนเกี่ยวกับรายละเอียดในคดีอย่างรัดกุม ซึ่งเมื่อสอบสวนครบถ้วนจะนำผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลอาญาต่อไป

 

สำหรับรายชื่อผู้ต้องหาคดีนี้ทั้ง 18 ราย ประกอบด้วย

1. นายวรัตน์พล หรือ บอสพอล วรัทย์วรกุล

2. นายจิระวัฒน์ หรือ บอสแล็ป แสงภักดี

3. นายกลด หรือ บอสปีเตอร์ เศรษฐนันท์

4. น.ส.ปัญจรัศม์ หรือ บอสปัน กนกรักษ์ธนพร

5. ดร.ฐานานนท์ หรือ บอสหมอเอก หิรัญไชยวรรณ

6. น.ส.นัฐปสรณ์ หรือ บอสสวย ฉัตรธนสรณ์

7. น.ส.ญาสิกัญจน์ หรือ บอสโซดา เอกชิสนุพงศ์

8. นายนันท์ธรัฐ หรือ บอสโอม เชาวนปรีชา

9. นายธวิณทร์ภัส หรือ บอสวิน ภูพัฒนรินทร์

10. น.ส.กนกธร หรือ บอสแม่หญิง ปูรณะสุคนธ์

11. น.ส.เสาวภา หรือ บอสอูมมี่ วงษ์สาขา

12. นายเชษฐ์ณภัฎ หรือ บอสทอมมี่ อภิพัฒนากานต์

13.  นายหัสยานนท์ หรือ บอสป๊อบ เอกชิสนุพงศ์

14.  นางวิไลลักษณ์ หรือ บอสจอย ยาวิชัยหรือเจ็งสุสรรณ

15.  นายธนะโรจน์ หรือ บอสออฟ ธิติจริยาวัชร์

16.  นายยุรนันท์ หรือ บอสแซม ภมรมนตรี

17. น.ส.พีชญา หรือ บอสมีน วัฒนามนตรี

18.  นายกันต์ หรือ บอสกันต์ กันตถาวร