ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลการลงมติของสมาชิกรัฐสภาต่อ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ.... ในมาตรา 23 ซึ่งแก้ไขเนื้อหาของมาตรา 128 ว่าด้วยวิธีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมติเสียงข้างมาก 392 เสียง เห็นด้วยกับผู้สงวนญัตติที่ให้แก้ไข ให้ใช้จำนวน 500 คน หาค่าเฉลี่ย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต่อ 160 เสียงที่ให้คงไว้ตามที่กมธ.เสนอให้ใช้จำนวน 100 คน หาค่าเฉลี่ยต่อส.ส.ของพรรคการเมือง
โดยในการอภิปรายเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่าน ของ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ฐานะผู้ชนะสูตรคำนวณ ระบุตอนหนึ่งว่าเพื่อดับฝันเพื่อไทยชนะแบบแลนด์สไลด์
สำหรับผลการลงมติเสียงข้างมากให้พลิกสูตรคำนวณดังกล่าวพบว่า ส่วนใหญ่มาจากพรรค คือ พรรคพลังประชารัฐ, พรรคภูมิใจไทย ที่พบว่าลงคะแนนไม่แตกแถวทุกคน ยกเว้น 3 ส.ส. ที่ไม่ปรากฏการลงคะแนน คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล, นายเอกราช ช่างเหลา และ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์
พรรคประชาธิปัตย์ 34 เสียง, 6 พรรคเล็กร่วมรัฐบาล, พรรครวมพลังประชาชาติไทย 5 เสียง , พรรคชาติไทยพัฒนา 5 เสียง, พรรคพลังท้องถิ่นไท 4 เสียง, พรรคเศรษฐกิจใหม่ 4 เสียง, พรรคเศรษฐกิจไทย 2 เสียง
นอกจากนั้นยังมีพรรคฝ่ายค้านร่วมสนับสนุน ได้แก่ ก้าวไกล 47 เสียง, พรรคเสรีรวมไทย 5 เสียง และพรรคเพื่อไทย จำนวน 7 ได้แก่ นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น, นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์, นายธีระ ไตรสรณกุล, นายนิยม ช่างพินิจ , นางผ่องศรี แซ่จึง, นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร, นายสุชาติ ภิญโญ ร่วมลงมติสนับสนุนด้วย
ขณะที่มีส.ว.ลงมติสนับสนุนอีก 164 เสียง
โดยผลการลงมติเสียงข้างน้อย ซึ่งยืนยันต่อหลักการหาร 100 ที่มีจำนวน 160 คน พบว่า มาจาก
พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 2 คน คือ นายไพบูลย์ นิติตะวัน และ นายกฤษณ์ แก้วอยู่
พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 11 คน ได้แก่ นายอันวาร์ สาและ, นายสุทัศน์ เงินหมื่น, นายสินิตย์ เลิศไกร, นายสาธิต ปิตุเตชะ, นายสมชาย ประดิษฐพร, นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์, นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ และ นายกนก วงษ์ตระหง่าน
พรรคเศรษฐกิจไทย จำนวน 5 คน ได้แก่ นายเกษม ศุภรานนท์ ,น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ, นายจีรเดช ศรีวิราช, นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูล, นายสมศักดิ์ คุณเงิน,นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์, นายปัญญา จีนาคำ, นายพรชัย อินทร์สุข, พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์
พรรคเศรษฐกิจไทย 9 เสียง, พรรคชาติไทยพัฒนา คือ นายนิกร จำนง ส.ส., พรรคเสรีรวมไทย คือ นายประสงค์ บูรณ์พงศ์, พรรคประชาชาติ 6 เสียง, พรรคเพื่อชาติ 5 เสียง ยกเว้น นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ, พรรคเศรษฐกิจใหม่ คือ นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล, พรรคชาติพัฒนา จำนวน 3 เสียง, พรรคพลังปวงชนไทย 1 เสียง, พรรคไทยรักธรรม 1 เสียง,
ส่วนส.ว. 7 คน ได้แก่ นายไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์, นายคำนูณ สิทธิสมาน, นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, นายพลเดช ปิ่นประทีป, นายวันชัย สอนศิริ, นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ และ นายเสรี สุวรรณภานนท์
ขณะที่ผู้ “งดออกเสียง และ “ไม่ปรากฏการลงคะแนน” มีรายละเอียด ดังนี้
พลังประชารัฐ งดออกเสียง 5 เสียง ได้แก่ นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร, นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานนันท์ , นายวันชัย ปริญญาศิริ, น.ส.กัลยา รุ่งวิวิจิตรชัย
ทั้งนี้มีผู้ไม่ลงคะแนน คือ นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ และมีอีก 30 คน ไม่ปรากฏการลงมติ อาทิ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ, นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสุชาติ ตันเจริญ, น.ส.วทันยา บุญนาค, นายพิเชษฐ สถิรชวาล, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง, นายชัยวุมิ ธนาคมานุสรณ์, นายสุชาติ ตันเจริญ เป็นต้น
พรรคประชาธิปัตย์ มีผู้งดออกเสียง 1 คน คือ นายสาคร เกี่ยวข้อง และมี 6 เสียงที่ไม่ปรากฏการลงมติ คือ นายชวน หลีกภัย, นายเกียรติ สิทธีอมร, นายอิสรพงษ์ มากอำไพ, นายวุฒิพงษ์ นามบุตร, พ.ท.สินธร แก้วพิจิตร, นายนราพัฒน์ แก้วทอง
ส่วนของพรรคฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล ไม่ปรากฏการลงมติ คือ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร , น.ส.วรรวรี ตะล่มสิน, นายวุฒินันท์ บุญชู, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล
พรรคเพื่อไทย 13 คน ไม่ปรากฏการลงมติ อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่, นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน, นายไพจิต ศรีวรขาน , นายขจิตร ชัยนิคม, นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. เป็นต้น
สำหรับการออกเสียงของส.ว. นอกจากที่ลงมติให้ใช้สูตร 500 คนหาค่าเฉลี่ยส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 164 คนแล้ว พบว่ามี ส.ว.ที่ยืนหลักการ 100 คน 7 คน
มีผู้งดออกเสียง 14 คน อาทิ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย, นายสมชาย เสียงหลาย, นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์, นายพรเพชร วิชิตชลชัย, พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง, นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ เป็นต้น และมีผู้ไม่ลงคะแนน คือ นายสมพล เกรียติไพบูลย์ ขณะที่ส.ว.อีก 73 คน ไม่ปรากฏการออกเสียงลงคะแนน