สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งให้เป็น กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ว่างลง 2 ตำแหน่ง ไปแล้วเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา
16 คนชิงป.ป.ช.แทนณัฐจักร
ตำแหน่งแรกเป็นการสรรหา แทน นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา กรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปี จํานวน 1 คน
ปรากฏว่า มีผู้สมัครรวมจำนวนทั้งสิ้น 16 คน ดังนี้ 1. นายปรีชา พงษ์พานิช อายุ 65 ปี อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตและสำนักงานคดีศาลสูงภาค 1 สำนักงานอัยการสูงสุด
2.นายประจวบ ตันตินนท์ อายุ 64 ปี ผู้สอบบัญชีอิสระ และอดีตผู้บริหารบริษัทมหาชน 3.นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง อายุ 65 ปี อดีตรองประธานศาลฎีกา
4.นายปรีชา บุญโรจน์พงศ์ อายุ 64 ปี ผู้พิพากษาศาลฎีกา อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 9 และอดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9
5.นายประหยัด เสนวิรัช อายุ 65 ปี ผอ.สำนักกฎหมายประหยัดทนายความ และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา
6.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง อายุ 58 ปี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจตำรวจนครบาล 7. นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อายุ 67 ปี อดีตรองอัยการสูงสุด 8. นายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ อายุ 60 ปี อดีตรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
9. นายวันชัย คงเกษม อายุ 59 ปี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี 10. นายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว อายุ 52 ปี ทนายความ และหัวหน้าสำนักกฎหมายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว 11.นายธัญญา เนติธรรมกุล อายุ 60 ปี อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
12.พล.ต.ท.จักรพงษ์ วิวัฒน์วานิช อายุ 60 ปี อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 13. นายสาธิต อุไรเวโรจนากร อายุ 61 ปี ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และอดีตกรรมการกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง กกต.
14.นายสมโภชน์ โตรักษา อายุ 56 ปี ผู้จัดการฝ่ายข่าว บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด 15.ว่าที่ร.ต.อำนวย อุปถัมภ์ อายุ 59 ปี ทนายความอิสระ และ 16.นายสมศักดิ์ วรวิจักษณ์ อายุ 63 ปี ทนายความ กรรมการ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด
14 คนชิงป.ป.ช.แทนบุณยวัจน์
ขณะที่ในส่วนของการเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. แทน พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ มีรายชื่อผู้สมัคร จำนวน 14 คน ดังนี้
1.นายประจวบ ตันตินนท์ อายุ 64 ปี ผู้สอบบัญชีอิสระและอดีตผู้บริหารบริษัท มหาชน 2. นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อายุ 64 ปี อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด 3.นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง อายุ 65 ปี อดีตรองประธานศาลฎีกา
4. นายวิฑูลรย์ ศิริวิโรจน์ อายุ 58 ปี ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย 5.นายปรีชา บุญโรจน์พงศ์ อายุ 64 ปี ผู้พิพากษาศาลฎีกา อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 9 อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9
6.นายประหยัด เสนวิรัช อายุ 65 ปี ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายประหยัดทนายความ และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา
7. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง อายุ 58 ปี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจนครบาล 8.นายธัญญา เนติธรรมกุล อายุ 60 ปี อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล 9.นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อายุ 67 ปี อดีตรองอัยการสูงสุด
10.นายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว อายุ 52 ปี ทนายความ และหัวหน้าสำนักกฎหมายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว 11. พล.ต.ท.จักรพงษ์ วิวัฒน์วานิช อายุ 60 ปี อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อดีตกรรมการ
12.นายสาธิต อุไรเวโรจนากร อายุ 61ปี ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และอดีตกรรมการกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง กกต. 13.ว่าที่ร.ต.อำนวย อุปถัมภ์ อายุ 59 ปี ทนายความอิสระ 14. นายสมศักดิ์ วรวิจักษณ์ อายุ 63 ปี ทนายความ กรรมการ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด
สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งปฏิบัติหน้าที่หน่วยธุรการของคณะกรรมการสรรหา กรรมการป.ป.ช. จะส่งรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งพฤติการณ์ทั่วไป
และเมื่อได้รับผลการตรวจสอบดังกล่าวมาแล้ว คณะกรรมการสรรหาจะพิจารณาวินิจฉัยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร หลังจากนั้น จะเชิญผู้สมัครที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม มาแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และหรือการสัมภาษณ์ผู้สมัครต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถส่งข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้สมัครได้ที่ ตู้ ปณ. 45 ปณฝ. รัฐสภา กรุงเทพฯ 10305 และทางเว็บไซต์ www.senate.go.th ภายใน วันที่ 22 พ.ย.66
เปิด 8 กก.สรรหาป.ป.ช
สำหรับคณะกรรมการสรรหา ป.ป.ช. ปัจจุบัน มี 8 คน ประกอบด้วย
1.. นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานกรรมการ 2. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร 3. ศ.พิเศษวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ประธานศาลปกครองสูงสุด 4. นางสาวพศุตม์ณิชา จาปาเทศ บุคคลซึ่งศาลรัฐธรรมนูญแต่งตั้ง
5. นายชัยเลิศ หลิมสมบูรณ์ บุคคลซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้ง กรรมการ 6.พล.ต.อ.ศักดา ชื่นภักดี บุคคลซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินแต่งตั้ง 7.นายวิทูรัช ศรีนาม บุคคลซึ่งคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินแต่งตั้ง และ 8.นายบุญสม อัครธรรมกุล บุคคลซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแต่งตั้ง ทั้งนี้ กรรมการสรรหาในส่วนของผู้นำฝ่ายค้านฯ ปัจจุบันยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
ส.ว.สายลุงตู่ชี้ขาดป.ป.ช.
ตามขั้นตอน เมื่อคณะกรรมการสรรหาลงคะแนนคัดเลือกใครให้ได้เป็น กรรมการ ป.ป.ช.แล้ว ก็จะเสนอรายชื่อบุคคลดังกล่าวไปยังวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อให้นำเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบต่อไป
สำหรับบุคคลที่จะได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. จากที่ประชุมวุฒิสภา ต้องได้คะแนนเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 125 เสียง จาก 500 เสียง หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี จะนำรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเห็นชอบนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
ทั้งนี้ องค์ประกอบของ ส.ว. ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเป็น ส.ว. ปีก ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ที่มีอยู่ประมาณ 120-150 เสียง
หาก ส.ว.สาย“ลุงตู่”เห็นควรว่าใครเหมาะจะได้เป็น กรรมการ ป.ป.ช. ก็รับรองได้เลยว่า คนๆ นั้นได้เป็นแน่ๆ
โดย ส.ว.ที่มีบทบาท และเป็น “คีย์แมน” ในการเคลื่อนไหวส่งสัญญาณคัดเลือก “กรรมการองค์กรอิสระ” ให้จับตาไปที่ พล.อ.อู้ด เบื้องบน, พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ และ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา ซึ่งทั้ง 3 คน ล้วนเป็นคนสนิทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ใครจะได้เป็น กรรมการป.ป.ช. หรือ ไม่ได้เป็น “ส.ว.สายลุงตู่” จะเป็นตัวชี้ขาดแน่นอน