"เจษฎ์ โทณะวณิก" แนะหากจะแก้ระบบเลือกตั้ง สว.ต้องเลือกให้เสร็จในวันเดียว

01 ก.ค. 2567 | 06:16 น.

"เจษฎ์" แนะหากจะแก้ระบบเลือก สว.ต้องเลือกตั้งให้เสร็จในวันเดียว เผยทุกคนที่ฮั้วกัน คือคนที่ทำให้ระบบแย่ มองคนวิจารณ์คุณสมบัติสว.ไม่ทำให้การเลือกโมฆะได้ รอดูผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์

นายเจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย กล่าวถึงการเลือกตั้ง สว.ที่มีความซับซ้อนและวุ่นวาย ว่า ต้องแยก 3 เรื่อง 1.บทบัญญัติของกฎหมายพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาไปแล้วว่าในส่วนของตัวกฎหมายไม่มีอะไรขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ

เรื่องที่ 2 คือการทำหน้าที่ของกรรมการซึ่งในระบบการเลือกกันเองแบบนี้เหมือนการเล่นกีฬา ในการเลือกกันเองกรรมการที่เข้าไปอยู่ในวงรอบต้องทำหน้าที่อย่างเข้มงวดเช่นโพยอุปกรณ์มือถือต้องไม่ให้เอาเข้าไปและต้องจับตาดูอยู่ตลอดเวลาถ้ามีอะไรบิดพลิ้วหรือควรสงสัยต้องตัดออกไปทันทีแล้วให้บรรดาคนที่ถูกตัดออกไปไปร้องศาลเอาเอง ถ้าศาลให้กลับมาก็กลับมาแต่ถ้าไม่ให้กลับมาก็แล้วไป 3.คนไม่ดี มีการซื้อมีการโกงต่อให้ระบบดีแค่ไหนก็ไม่พ้นการทำให้เกิดปัญหา

ดังนั้น ประชาชนต้องช่วยกัน และไม่มีระบบไหนที่คัดกรองคนไม่ดีออกไปหมด วันนี้ ได้สว.มาแล้ว 200 คนได้สำรองมา 100 คน เมื่อได้คนมาทำหน้าที่ก็ต้องช่วยกันตรวจสอบ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับพรรคการเมือง หรือเป็นฝ่ายเดียวกับผู้มีอิทธิพล หากการทำหน้าที่ไม่ยึด ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักแต่ยึดผลประโยชน์ของพวกพ้อง จะต้องจัดการ

และยอมรับว่าระบบนี้มีข้อขัดข้อง หากจะแก้วิธีที่ง่ายที่สุด คือให้การเลือกทุกระดับทำในครั้งเดียวกัน ห้ามนำอุปกรณ์มือถือและโพยเข้าไป หากในกระบวนการดังกล่าวทำครั้งเดียวแล้วมีคนนอกรู้แสดงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ที่เผยแพร่ข้อมูลจะต้องจับให้ได้ หรืออาจเพิ่มการคัดกรองผู้สมัครเป็น 40 กลุ่ม แต่อย่าคิดเพียงสั้นๆว่า ระบบไม่ดี แล้วเปลี่ยนเป็นหย่อนบัตรเลือกตั้ง อย่าไปทำแบบเลือกตั้งสส.ที่มีปัญหาแล้วเปลี่ยนเลย ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมา 
 

พร้อมกันนี้ นายเจษฎ์ ได้อ้างอิงข้อมูลที่ฟังมาไม่รู้เป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ว่า ในการเลือกระดับอำเภอ มีการจ้างผู้สมัครคนละ 5,000 บาท ซึ่งจะเป็นค่าสมัคร 2,500 บาท ส่วนในรอบไขว้ ให้พกเงินสดติดตัวไป เพื่อจ่ายในชั้นไขว้ แต่พอไปเลือกระดับจังหวัดรอบแรกจ่าย1หมื่นบาท รอบเลือกไขว้จ่าย 50,000 บาท พอการเลือกระดับประเทศ จ่ายรอบเลือกกลุ่มเดียวกัน100,000บาท และจ่ายในรอบเลือกไขว้ 500,000 บาท 

"ซึ่งหากเป็นเรื่องจริงนี่เป็นข้อด้อย เพราะสะท้อนว่าการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ซึ่งคนที่ทำให้เป็นปัญหามากที่สุดคือ คนที่อยู่ในกระบวนการและรับเงิน อย่าไปติติงกระบวนการ ต้องติงที่บุคคลด้วย ทุกท่านที่ฮั้วกัน คือคนที่ทำให้ระบบแย่หมดเลย เหล่านี้คือสิ่งที่พูดว่าท่านเป็นคนไม่ดี นี่คือปัญหาประการแรก" นายเจษฎ์ กล่าว

นายเจษฎ์ ยังชี้ว่าในช่วงระยะห่าง10 วัน ระหว่างระดับจังหวัดไปถึงระดับประเทศ ทำให้เกิดการวิ่งเต้นกันมาก ดังนั้นหากจะแก้ระบบคือต้องแก้ให้จบภายในวันเดียว และสุดท้ายอำนาจของสว.เวลาที่จะเลือกกรรมการในองค์กรอิสระหรือตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งไม่มีคำอธิบายหรือซักค้านจึงแนะให้เชิญบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อมาชี้แจงในที่ประชุมวุฒิสภา หรือเรียกว่าการไต่สวนสาธารณะให้ประชาชนได้ติดตามตรวจสอบ

นายเจษฎ์ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์คุณสมบัติของว่าที่สว. ทั้ง 200 คน จนทำให้การเลือกเป็นโฆษะหรือไม่ ว่า หากการเลือกเป็นจะโมฆะ ต้องมาจากเหตุผลว่า คนส่วนใหญ่โกง ฮั้ว หรือเข้ามาโดยมิชอบ หากเป็นเช่นนั้นก็ให้กระบวนการโมฆะไป แต่หากความรู้ยังไม่ได้หรือประสบการณ์ยังไม่เหมาะ แต่ไม่ได้โกงไม่ได้ฮั้วอย่าไปตัดรอนแค่นั้น รอให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ 

" อย่าคิดว่าวุฒิป. 4 ทำอะไรได้น้อยกว่าปริญญาเอก ปริญญาเอกทำอะไรไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว เยอะแยะ ป.4 ทำอะไรดีงามมากมายคนที่ไม่ได้ร่ำเรียนแต่ทำงานแล้ว สามารถเรียนรู้งานได้ รวดเร็วก็มีมาก แต่สิ่งที่จำเป็นจะต้องอธิบายทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานในสภา ให้เข้าใจถึงการเชื่อมการทำงาน นิติบัญญัติ ตุลาการ ฝ่ายบริหาร และความรู้ทางการเมือง เพื่อให้สว.ทำหน้าที่ได้อย่างเหมาะสม" นายเจษฎ์กล่าว 

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีสว.สายสีน้ำเงินเยอะ นายเจษฎ์ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าจะมีสายสีส้ม สีแดง สีน้ำเงินเยอะ แต่หากไม่มีการฮั้วไม่โกง สายไหนก็เข้ามาเถอะ แต่ถ้ามีการฮั้ว โกง มาจากสายไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น อย่างที่ได้ย้ำบอกว่าถ้าอยากให้บ้านเมืองดี ช่วยทำให้การเมืองดี.