thansettakij
จับสัญญาณพรรคร่วม(เดิม) "โหวตนายกฯคนใหม่" ยังโอเคไหมกับเพื่อไทย

จับสัญญาณพรรคร่วม(เดิม) "โหวตนายกฯคนใหม่" ยังโอเคไหมกับเพื่อไทย

15 ส.ค. 2567 | 07:13 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ส.ค. 2567 | 07:20 น.

รายงานพิเศษ : จับสัญญาณพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ยังคงจะร่วมจับมือกับ “พรรคเพื่อไทย" เหนียวแน่นเหมือนเดิมหรือไม่? หรือมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง

“ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี” ให้ข่าวยืนยันว่า มติพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเอกฉันท์ ให้ “นายกรัฐมนตรีคนใหม่” มาจากพรรคเพื่อไทย

“มติที่ชัดเจนออกมาแล้วระหว่างพรรคร่วมกับพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำหลัก เราคุยกันทางพรรคร่วมทั้งหมดมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ให้นายกมาจากพรรคเพื่อไทย ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องนำเรื่องนี้กลับไปหารือกัน
ส่วนที่แกนนำเพื่อไทยและแกนนำพรรคร่วมเข้าไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเพื่อพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น มองว่า

“อาจจะคิดถึง ก็ไปเจอกันไม่เห็นมีปัญหาอะไร คนคิดถึงกัน เพราะผมเองก็ยังไปเยี่ยมบ้านท่านบ่อยๆเวลาคิดถึง ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะหลายเรื่องเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดได้ อย่าไปจินตนาการเยอะเลย เอาความเป็นจริงดีกว่า”

ส่วนการทำงานของคณะรัฐมนตรีรักษาการในช่วงนี้ ภูมิธรรม ระบุว่า ตามกลไกคณะมนตรียังทำหน้าที่รักษาการชุดเดิมทั้งหมด ดังนั้นทุกคนยังเป็นรัฐบาลพรรคร่วม ที่มีนโยบายเดิมที่ทำกันอยู่แล้ว ทุกคนมีหน้าที่บริหารจัดการ หน้าที่คือของเรา คือทำให้ต่อเนื่องไปให้ดีที่สุดและเร็วที่สุด และคงจะมีกระบวนการในการเลือกนายกใหม่อีกครั้งโดยเร็ว

ส่วนกรณีมีการเสนอชื่อ นายชัยเกษม นิติศิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่31นั้น นายภูมิธรรม บอกกว่า ไม่แปลกเพราะแคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทยมี2ท่าน เป็นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับ นายชัยเกษม ทั้งสองท่านเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ ก็ขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยพิจารณา และวันนี้พรรคเพื่อไทยมีนัดประชุมพรรคที่สภาฯ คงใช้ที่ประชุมนั้นหารือกัน และคงมีความเห็นของพรรค ซึ่งก็เป็นไปตามกระบวนการพรรคการเมือง และเมื่อฟังความเห็นเสร็จก็คงจะนำมาคุยกันมนกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง 

ขณะที่ ปัญหาเรื่องสุขภาพของนายชัยเกษมนั้น มองว่า ก็เป็นธรรมดา เพราะนายชัยเกษม เคยป่วยหลังจากนั้นท่านได้ใช้ช่วงเวลาในการรักษาอย่างต่อเนื่องมาตลอด ครั้งสุดท้ายที่ตนเองได้เจอก็เหมือนคนปกติ ด้านกายภาพก็ออกไปตีกอล์ฟได้ ส่วนที่บอกว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ก็เป็นจินตนาการ ซึ่งตนเองมองว่า ควรดูที่สุขภาพท่านเป็นหลัก ถ้าท่านยืนยันได้แล้ว ดูแล้วสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไรเป็นเรื่องการบริหารจัดการของพรรคแกนนำและพรรคร่วมที่จะต้องร่วมกันบริหารจัดการ โดยจัดการด้วยระบบบริหารที่ทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติได้

นักข่าวถามว่า หากนายกรัฐมนตรีเป็นนายชัยเกษม หลายฝ่ายมองว่าจะเป็นนายกคั้นเวลาหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า “แล้วแต่สื่อไปเรียกกัน เป็นนายก ก็คือเป็นนายก ไม่มีนายกคั่นเวลา ในระบบกฎหมายไม่มีนายกคั่นเวลา ถ้าเป็นที่ยอมรับของสภา ก็ถือว่าเป็นนายก นายกก็ต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ก็อยู่ที่การจัดทีมงาน”

 

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

 

รทสช.หนุนแคนดิเดตนายกฯ "เพื่อไทย" ย้ำจุดยืนต้องไม่แก้ ม.112

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงการโหวตเรื่องนายกรัฐมนตรีว่า พรรครวมไทยสร้างชาติได้มีมติที่จะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล และยังยืนยันหลักการเดิมว่า ไม่มีการเกี่ยวข้องกับการแก้ไขมาตรา 112  และคาดหวังว่า นโยบายต่างๆ ที่ออกมาจะทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชน

ส่วนที่มีกระแสว่าจะมีการนำพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธ์ ยืนยันว่า ไม่มี เพราะท่านได้เป็นองคมนตรีแล้ว อย่าเอาข่าวแบบนี้ไปให้เกิดปัญหากับท่าน ท่านไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว

"และโดยมารยาทเราได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลตั้งแต่ครั้งที่แล้ว โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และโดยมารยาททางการเมืองก็ต้องสนับสนุนผู้ที่เป็นแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย เป็นการทำงานต่อเนื่องจากคราวที่แล้วเท่านั้นเอง แต่จะต้องเข้าร่วมรัฐบาลใหม่ ก็จะต้องแถลงจุดยืนเท่านั้นเอง หลักการก็เหมือนเดิม ต้องสนับสนุนผู้ที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อมา"

ส่วนที่หลายคนกังวลเรื่องการเปลี่ยนโควตารัฐมนตรี ยังเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะกังวลเรื่องการทำงานที่ไม่ต่อเนื่อง นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบทุกอย่างเหมือนเดิม เปลี่ยนแค่ตัวนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีของทุกพรรคยังอยู่เหมือนเดิม ไม่มีปัญหา เราก็ทำงานต่อเนื่อง และทุกพรรคก็ทำงานต่อเนื่อง

พรรครวมไทยสร้างชาติก็พอใจการทำงานที่ผ่านมา ในการทำหน้าที่เดิมและพยายามทำให้หนักกว่าเดิมเพื่อประโยชน์ของประชาชน ซึ่ง 4 กระทรวงที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะส่วนตัวที่รับผิดชอบกระทรวงพลังงาน ก็จะพยายามเดินหน้าต่อในสิ่งที่เป็นปัญหาของประชาชน กระทรวงอุตสาหกรรมก็เช่นเดียวกันที่มีอีกหลายเรื่องที่ต้องดำเนินการ ในเรื่องของการพัฒนาประเทศและนักลงทุนด้านต่างๆ ส่วนกระทรวงการคลังก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด 

ส่วนที่มีข้อกังวลเรื่องสุขภาพของนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย นั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ และตามที่เป็นข่าว พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมกันอีกที โดยมารยาท พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องให้เกียรติพรรคหลัก ส่วนปัญหาต่างๆเป็นเรื่องพรรคหลักที่จะต้องพิจารณา ไม่ใช่พรรคเรา

เมื่อถามว่ามีข้อตกลงเรื่องนโยบายพรรคร่วมรัฐบาลได้หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่มี ก็คงเหมือนเดิม แต่นโยบายหลักก็คงเหมือนเดิม และไม่ยุ่งเกี่ยวกับมาตรา 112 ส่งเสริมและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาและป้องกันปัญหาทุจริต

ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต พรรคเพื่อไทยยังคงเดินหน้าหน้าต่อ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่าเรื่องนี้ต้องถามพรรคเพื่อไทยเพราะที่ผ่านมาก็มีประเด็นที่สำคัญที่พรรครวมไทยสร้างชาติยังเป็นกังวล คือเรื่องของความชอบและชอบด้วยกฎหมาย และได้รับคำตอบจากกฤษฎีกาหมดแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้พรรคเพื่อไทยเป็นคนยืนยัน

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล  หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล  หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

 

ภูมิใจไทย ยินดีเลือกนายกฯเพื่อไทย  ลั่น จุดยืนไม่แตะ 112

นายอนุทิน ชาญวีรกูล  หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำ สส.พรรคภูมิใจไทย แถลงท่าทีของพรรคภูมิใจไทยต่อการมีส่วนสนับสนุนบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีมติจากที่ประชุม ว่า พรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลยินดีสนับสนุนบุคคลในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี หรือแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

"เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทยที่จะเสนอบุคคลที่พรรคเพื่อไทยเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรซึ่งจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ในเวลา 10:00 น." 

นายอนุทิน ยังกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยยังขอให้ประชาชนได้มั่นใจในจุดยืนของพรรค ที่ว่าพรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุนพรรคการเมือง หรือไม่สนับสนุนคนที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเจตนารมย์ของพรรคภูมิใจไทยตามแถลงการณ์ที่ได้มีไว้เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 และถือเป็นข้อตกลงเดิมของพรรคร่วมรัฐบาล ในสมัยการจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นการให้เกิดความชัดเจน 

ทั้งนี้ จากการที่พรรคภูมิใจไทยได้พบกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลาย ซึ่งทุกพรรคมีความเห็นไปในทางเดียวกัน และเพื่อให้เกิดความชัดเจนพรรคภูมิใจไทยขอให้มีการจัดการแถลงร่วมของพรรคร่วมรัฐบาล โดยให้แกนนำหรือพรรคเพื่อไทย ได้ยืนยันจุดยืนนี้ร่วมกันกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนในโอกาสแรกที่จะทำได้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล  หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล  หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยเป็นผู้ที่เห็นด้วยกับเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลต้องออกมาแถลงจุดยืนร่วมกัน ว่าจะไม่มีการแตะ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 

ส่วนการที่บุคคลนั้น เคยเป็นผู้ที่บุคคลนั้นเคยเสนอ และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มีความกังวลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าเรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องชี้แจง พรรคภูมิใจไทยไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ 

ส่วนติดใจหรือไม่นั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า เรายินดีสนับสนุนบุคคลที่พรรคเพื่อไทยเห็นว่าเหมาะสม ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องรอพรรคเพื่อไทยคัดเลือกบุคคลนั้นให้เรียบร้อยเสียก่อน ซึ่งในวันนี้เราได้แถลงจุดยืน ของพรรคภูมิใจไทยอย่างชัดเจน เราเดินตามกติกาทุกประการที่ให้แกนนำรัฐบาลเป็นคนเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี

พปชร. ย้ำ จุดยืน หนุน แคนดิเดตนายกฯ จาก เพื่อไทย ทั้ง ชัยเกษม-แพทองธาร 

ล่าสุดวันที่ 15 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ,ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ,นางสาวตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ด้านกิจกรรมสัมพันธ์พร้อมด้วย สส.ของพรรคพลังประชารัฐ ร่วมแถลงจุดยืนต่อกรณีการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้(16 ส.ค.)

โดยนายสันติ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อแสดงจุดยืนแนวทางในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ดังนี้

1.พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนบุคคลในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้

2.พรรคพลังประชารัฐ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เทิดทูนและธำรงซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พรรคพลังประชารัฐยังคงมีจุดยืนที่ไม่เปลี่ยนแปลงที่จะไม่ร่วมกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

3.พรรคพลังประชารัฐ ยึดมั่นในนโยบายที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดการส่งเสริมความปรองดองของคนในชาติ ให้มีความสามัคคี เพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ในเรื่องเศรษฐกิจ และความเท่าเทียม รวมถึงจะพัฒนาประเทศชาติต่อไปให้มีความเข้มแข็ง

พปชร. ย้ำ จุดยืน หนุน แคนดิเดตนายกฯ จาก เพื่อไทย พปชร. ย้ำ จุดยืน หนุน แคนดิเดตนายกฯ จาก เพื่อไทย

ทั้งนี้ นายสันติ เปิดเผยว่า ได้มีการพูดคุยกับพลเอกประวิตรเรียบร้อยแล้ว และท่านได้มอบหมายให้ ตนมาชี้แจงร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส 

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับหัวหน้าพรรค และก็มีมติชัดเจนตามที่ได้แถลงข่าวไป ซึ่งขอย้ำว่า สนับสนุนบุคคลใดก็ตามที่พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอ และสิ่งสำคัญคือการยึดมั่นในนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ ยังมี 4 โควต้าตามเดิม ซึ่งภายหลังจากได้นายกรัฐมนตรีแล้ว ตนและนายสันติ จะมีการดำเนินการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ส่วนจะมีการสลับตัวบุคคลหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของหัวหน้าพรรค